หลังจากทีเขียน Code กับ Product ที่ใช้กับตัว DB2 มานาน คราวนี้มีโอกาสได้ย้ายบ้าน จริงไม่เชิงย้ายหรอกครับ แค่เอา Product ตัวเดิม จากที่มันใช้ได้กับ DB2 ไปใช้กับ MS SQL Server ให้ได้ครับ พอให้น้องที่ทำงานมาลองทำ POC ดู อ้าว Error Table มันมี Column ที่ชื่อว่า Index แล้วทางแก้หละ จะทำ view ครอบหลอกก็ไม่ได้และ มีทั้ง สิ่งที่ผมทำ มีดังนี้ครับ ที่ผมทำแบบนี้ เพราะ ต้องการใช้ตัว Code ของที่ใช้กับ Database DB2 และ MS SQL Server เป็น Code ชุดเดียวกันครับ
วันก่อนผมได้คุยกับหัวหน้าถึงงานที่จะให้น้องฝึกงานทำเกี่ยวกับ Recommendation System ครับ ไล่จาก Weka มาเรื่อยๆ จนมาถึงภาษา R กับ Python มันใช่มวยที่ถูกคู่ในการเปรียบเทียบ หรือป่าว ? เลยมาสรุปแปะไว้ดีกว่าครับ เพราะคนส่วนใหญ่ชอบดูเปรียบ 2 ตัวนี้ในการเลือกสายการทำงาน A Few day ago. I discussed with my boss about trainee project’s “The Recommendation System”.Weka .. so many R vs Python are well-matched. After This I summaries it on my blog, because of many people compare R and Python for work purpose. อันนี้เป็นหนึ่งใน Infographic ที่ผมหา และนำเสนอหัวหน้าครับ แต่หลังจากคุยกับหัวหน้า ได้มองที่มาของ 2 ภาษานะครับ มันมีต้นกำเนิดที่แตกต่างกันเลย สำหรับ Blog ตอนนี้ เป็นการสรุปความความเข้าใจ และความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ อาจจะมีข้อผิดพลาดได้ This blog post, It’s just my comprehension and opinion, I could be wrong Note:
หลังจาก Blog ตอนที่แล้ว วันที 7 พ.ย. 2559 มีเมล์มาแจ้งนะว่ามีสิทธิสอบสัมภาษณ์ในวันที่ 14 พ.ย. 2559 นะ ในวันสัมภาษณ์เนื่องจากบ้านไกลมาตั้งแต่ 7.45 เลยมาเปิดห้อง 55555 กว่าจะได้สัมภาษณ์จริงๆสำหรับแผน ข ประมาณ 10.45 สำหรับการสัมภาษณ์ เข้าไปเสร็จมีอาจารย์ 3 ท่านครับเป็นผู้สัมภาษณ์เราครับ แนะนำตัวสั้นๆ ถามเกี่ยวกับงานที่ทำ เคยเปลี่ยนงานอะไรไหม ทำไมถึงอยากเรียน เรียนแล้วจะเอาไปทำอะไร ดูหลักสูตรมาไหม บอกด้วยว่าจะจบได้โครงการต้องมีการตีพิมพ์นะ แม้ว่าจะเป็น แผน ข ก็ตามครับ สำหรับผมรู้สึกว่าการสัมภาษณ์ไปเร็วไปมากเลย ประมาณ 10 กว่านาที ไปสัมภาษณ์งานนานกว่านี้มากครับ ต่อไปก็ลุ้นว่าได้เรียน หรือป่าว ถ้าได้ก็ดีครับ เพราะ ที่ทราบมาปกติสาขานี้ไม่เปิดรับเทอม 2 นะ แต่ปีนี้มาแปลกมีเปิดเทอม 2 ด้วย
ฺสำหรับ Blog นี้ เป็นหัวข้อที่สนใจอยู่พอดีครับ เพราะ กำลังทำระบบใหม่เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ ผมเลยแตกมาเป็นอีก Blog ครับ จาก Blog หลัก “สรุปงาน CodeMania – Coding Defines Anything” ครับ เข้าเรื่องเลยดีกว่าครับ หมายเหตุ : ผมมีสรุปข้อมูลเพิ่มไปบางส่วนด้วย เผื่อกลับมาอ่านเองย้อนหลังครับ Old way หากย้อนไประบบแบบเก่าจะเป็น Cookie based Authentication ดังรูป แต่ปัญหาของ Cookie based Authentication ก็มีเหมือนกัน คือ Token-based authentication Token based คือ อะไร สิ่งทีใช้แทน Username และ Password ถ้าอยากได้ต้องเอา Username และ Password ไปแลกมาครับ ดูตามรูปที่ผมได้หามาเพิ่มได้เลยครับ ตัวอย่าง ที่ใกล้ตัวเราที่สุด ลองนึกถึงการตรวจคนเข้าเมืองครับ ถ้าเราออกนอกประเทศ เราต้อง Passport เป็นบัตรผ่านครับ ถ้าไม่มีต้องเอาบัตรประชาชนเอกสารต่างๆ ไปยื่นกรมการกงสุล ครับ ทำไมต้องใช้ Token based authentication JSON Web Token (JWT) ? ข้อควรระวัง !!! Reference
Blog นี้สรุปมาจาก CodeMania 100 : Coding Defines Anything ลองดูแล้วมันน่าจะแยอะ เขียนแยกง่ายกว่า สำหรับเรื่องนี้เป็นเรื่อง Coding Defines Reality – Emergent Design with Code โดยคุณ Varokas Panusuwan เข้าเรื่องเลยดีกว่า หมายเหตุ: สรุปตามความเข้าใจของผม และอาจจะมีอารมณ์ร่วมแถม 5555 ย้อนไปถึงการ Design ในการพัฒนา Software ถ้าไม่ลืมจากที่เรียนไปมันมีเรื่อง SDLC (Software Development Life Cycle) มันมีขั้นตอน ตั้งแต่ Requirement > Design > Implementation > Testing > Deployment > Maintance ครับ มามองทุกจุดๆนึง Design เราออกแบบจากอะไร จากการมโน หรือจาก เมื่อมองถึงการ Design ระบบที่ดีต้องการอะไรบ้าง จากอันที่แล้ว ถ้าถาม User ส่วนมากมักจะบอกว่าเอาหมด !!! แต่ความจริงมันไม่เป็นอย่างงั้น ทุกอย่างมี Trade off อยากให้ระบบ Performance ดี แต่มันอาจจะ Maintainable ยากกกก ให้มองถึงระบบ Stat ใน Game ไม่มีอะไรที่เก่งไปหมดทุกด้านครับ เราต้องเน้นเร็ว AGI สูง ค่า VIT ต้องลดลง Design is very easy, Knowing what you want is very hard !!! Design with force ลองคิดกันต่อ Cassandra เป็น key/value database เอามาทำงานของ RDBMS…
Coding Defines Anything งานนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว โดยจัดที่หอประชุมคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ครับ สำหรับผมที่มา เพราะ หัวข้อ Keynote ครับ พอดีมีปัญหากับเรื่อง Design อยู่ โดยในงานหัวข้อที่ผมได้ฟัง มีดังนี้ครับ (ถ้าเรื่องไหนมันใหญ่ไป ผมจะแยกไปอีก Blog นะครับ) ช่วงเช้า Key Note: ผมสรุป Blog ไว้ครับ Coding Defines Reality – Emergent Design with Code (Speaker: Varokas Panusuwan)Flash talk: ช่วงบ่าย – Coding Defines Innovation “The power of Hackathon” (Speaker: Theeraphol Wattanavekin) Hackathon -> มาจาก Hack + Marathon Hackathon คืออะไร Hackathon เป็นอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้อง Coding เช่น งานของ Google Translate เอานักแปลมาช่วยกันแปล สร้างข้อมูลที่ถูกต้อง Loss or Win.. It doesn’t matter เพราะ อย่างน้อยคุณได้เรียนรู้ คำแนะนำสำหรับคนทีอยากไป ตัวอย่างงาน Hackathon ทำเพื่อสังคมชุมชน Data Driven city – youpin – ส่วนตัว คือ ผมเพิ่งรู้นะว่ามีโครงการแบบนี้ เพราะ ปกติเวลาเจออะไร ผมมักจะทวิตไปให้ js100 หรือไม่ก็ส่งเข้า Fan Page ของแต่ละสำนักงานเขตครับ มาลองใช้กันดูครับ Resource: Slide()…
พอดีต้องกลับมาใช้ VM กลับมาทำตัว BOT DataSet ต่อครับ เลยต้องมาใช้ VMware อันเก่าก่อนครับ คราวนี้แหละ ปัญหาจากการลง Hyper-V เพื่อเตรียมลอง Docker (สงสัยได้แค่ลอง เพราะ ตัว Hyper V กับ VM มันอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ T__T) ก็เกิดขึ้นตาม Message ดังนี้ครับ “VMware Workstation and Hyper-V are not compatible. Remove the Hyper-V role from the system before running VMware Workstation” หลังจากหาข้อมูล ผมเลยมาเขียน blog ดีกว่า ว่าทำยังไงให้ Hyper-V role ถูกปิดไป แทนที่จะต้องเอา Hyper-V ออก เท่าที่ดูหลายๆเว็บจะแนะนำให้เอา Hyper-V ออกครับ แต่ผมว่า Disable ดีกว่าครับ Disable Hyper-V Enable Hyper-V References
Update 2025: ย้ายจากสีลมไปแล้วนะครับ ตอนนี้จะเหลือสาขาใน กทม ลาดพร้าววังหิน 87 / ฉะเชิงเทรา ศรีโสธรซอย 9 อยู่ริมถนนติดกับเซเว่น ขายแบบ 24 ชมUpdate 2024: ย้ายจากฝั่งคอนแวนต์มาฝั่งตรงข้าม ซอย4 ครับ ร้านนี้อยู่ตรงซอยคอนแวนต์ ฝั่งปากซอยถนนสีลมครับ เป็นร้านข้างทาง แค่คนเยอะพอสมควรครับ สำหรับเมนูที่ร้านนี้ก็ข้าวมันไก่แหละครับ แต่มีการเล่นคำกับราคา ดังนี้ครับ มาดูที่มาดูที่ตัวข้าวมันไก่บ้าง สำหรับร้านนี้ ส่วนตัวมองว่า Drop ลงไปหลังจากที่เคยแวะมากินเมื่อ 2 ปีก่อนนะครับ ไม่แน่ใจว่าเป็นปัญหาการคุมคุณภาพจากการขยายสาขา หรือป่าว ถ้าสนใจข้อมูลเพิ่มเติมของร้านสามารถติดตามได้จาก Facebook Page: บัณฑิตคิมข้าวมันไก่คอนแวนต์ ครับ Reference
วันที่ 31 ต.ค. ของทุกๆปี หลายคนอาจจะมองว่ามันเป็นวัน Halloween แต่วันนี้ยังเป็นวันสำคัญอีกวันนึงด้วย คือ วันออมแห่งชาติครับ โดยทุกๆปีธนาคารออมสินมีการแจกกระปุกออมสินครับ โดยในปีนี้เป็นกระปุกออมสินเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ครองราชย์ 70 ปีครับ โดยฝากเงินคนละ 200 บาท ได้รับกระปุกฟรีครับ 1 บัญชี ต่อ 1 คนครับ โดยตัวผมเองไปรอที่ธนาคารออมสินสาขาวงเวียนใหญ่ครับ (ปกติจะไปแลกที่สำนักงานใหญ่เลย แต่กลัวจลาจลแบบตอนแลกแบงค์ที่ระลึกเมื่อสัปดาห์ก่อนครับเลยมาสาขาย่อยแทนครับ) มาถึงตอน 07:30 ได้คิวที่ 54 แล้วครับ ปีนี้ดีนะครับ ที่มีแกนนำช่วยจัดคิวให้ และประชาสัมพันธ์เรื่อง กระปุกฟรีครับ 1 บัญชี ต่อ 1 คน ครับ ไม่วุ่นวายเหมือนปีก่อนๆครับ ที่ถล่มเข้าไปอย่างกับซอบบี้ครับ คิวที่ช่วยกันจัดเตรียมไว้ครับ และคิวที่ได้จริง รวดเร็วทันใจครับ สำหรับผมรอฝากเงินและแลกกระปุกประมาณ 8 นาทีครับ ถ้าเทียบกับปีก่อนๆ เร็วมากครับ อาจจะเป็นเพราะ กระปุกฟรีครับ 1 บัญชี ต่อ 1 คน ทำให้ไม่มีพวกรับเหมามาครับ บางทีไม่ถึง 30 นทีก็หมดแล้ว คิวแรกเหมาไป 200 ใบ ไม่รู้ว่าไปหาบัญชีมาจากไหนเหมือนกัน ภาระกิจสำเร็จครับ ได้กระปุกที่ระลึกมาสะสมครับ ^___^ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระปุกครองราชย์สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยครับ และสำหรับคนที่พลาดโอกาสสามารถลองดูได้จากทวิตด้านล่างนะครับ ถ้ามีน้องที่ทำงานลองแล้วผมจะมา Update ข้อมูลอีกทีครับ
หลังจากมืนๆไปกับการสอบเพื่อเข้าเรียนปริญญาโทที่จุฬาในตอนเช้า เมื่อสอบเสร็จมันมี Calendar แจ้งมาว่าผมมีสิทธิ์เข้าไปงาน Tech@Agoda เลยแวะเข้าไปฟังครับ แต่ผมเข้าฟังแค่เรื่องเดียวนะครับ เนื่องจากต้องมีภาระกิจในช่วงเย็นครับ สำหรับการเดินทาง ผมงงครับ เห็นในกำหนดการบอกว่าให้ไป Starbucks ขั้น 3 แต่มันมี 2 ที่ มีทั้งในตัว Central World กับอาคาร Office เลยเสียเวลาเดินวนไปครับ ฮ่าๆ เข้าเรื่องเลยดีกว่า The Functions and The Machines – Functional Programming (Speaker: Dave Ravitat) มุมมองของ Speaker Assembly is Higher !!! แล้วทำไมหละ อันนี้ต้องย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นของ Computer เลยทีเดียวครับ สำหรับแนวคิดของคอมพิวเตอร์ที่เราเรียนกันมา มันมาจาก แล้วเราต้องคิดเหมือนเครื่องจักร หรือ ป่าว ? คำตอบ คือ ไม่ครับ หากมองลงไปที่แก่น มันมีวิชาหนึ่งในสาย Computer Science คือ Theory of computation มันมี Models หลายอันครับ ที่เรียนกันมาจะเป็นพวก Finite state machine ครับ แต่มันมีอีกหลายตัว ตัวที่เราจะสนใจ คือ Lambda Calculus มองทุกอย่างให้เป็น Function ครับ ก่อนเข้าไปเรื่อง Functional Programming อยากให้ลองคิดแบบ Functional Thinking ก่อนครับ คิดแบบคณิตศาสตร์ครับ ซึ่ง ลองดูตัวอย่างได้ครับ ของผมขอเป็นเรื่อง Fibonacci (ตามมาจากข้อสอบเมื่อเช้า 5555) ลองดูนะครับ ว่าอันไหนอ่านง่ายกว่ากัน ? เราถูกให้คิดแบบ Function ตั้งแต่เด็กๆ ผ่านวิชาคณิตศาสตร์แล้ว แต่มาเปลี่ยนให้คิดแบบเครื่องจักร ก็ตอนเรียน Programming !!! การที่เราคิดแบบ Function ทำงานหนึ่งอย่าง ไม่ต้องยุ่งกับใคร (Pure…
