[ATH2016] Good Transformation Coach

สำหรับตอนนี้ Good Transformation Coach โดยคุณ อุรณเทพ (พี่กัน) ครับ Blog อันนี้แตกมาจาก สรุปงาน Agile Thailand 2016 ครับ เป็น Session พิเศษครับ ต่อจากหัวข้อ Agile Transformation เพราะห้องอื่นเต็มหมดครับ โดยการเป็น Coach หรือ Manager ที่ดี ต้องมีความสามารถเหล่านี้ แต่มันไม่สามารถอ่านจากหนังสือได้ ต้องสะสมประสบการณ์ เก็บเกี่ยวไปสักพักนึงครับ โดยมีทั้งหมด 10 ข้อ ดังนี้

• They have an uncanny ability to “read a room.”
  • สามารถอ่านบรรยากาศภายในองค์กรได้ บรรยากาศมาคุ ใครไม่ชอบใคร เป็นต้น
• They care about people more than products.
  • สนใจที่คน ความสัมพันธ์ เพราะ คนสร้าง Productivity ครับ
• They cultivate curiosity.They know when they don’t know.
  • การที่เป็น Coach หรือ Manager บุคคลภายนอกจะตีตราว่าเรารู้ทุกอย่าง
  • ต้องยอมรับความจริงว่าบางเรื่อง เราไม่รู้ เพราะ โลกวันนี้ไปเร็วมาก ให้ถาม (Ask) , ขี้สงสัย อยากรู้(Curiosity) แต่ไม่ใช่ลองของ
  • แต่ต้องดูด้วยว่าเรา Contact กับคนใน Gen ไหน
    • ฺBaby Boomer, Gen X - ต้องพยายามทำเหมือนว่าเรารู้ ไม่งั้นอาจจะไม่ได้งาน เพราะ Baby Boomer, Gen X ผ่านความยากลำบากมาก่อน
    • Gen Y - เข้าใจความจริงครับ
• They believe that people are basically good.
  • เชื่อว่าทุกคนเป็นคนดี อย่าตัดสินอะไรจากภาพที่เห็น
• They know that plans fall apart, so they act in the moment with the team
  • ซื้อใจทีม ช่วยทีม เพราะ plan มันไม่นิ่งอยู่แล้ว Act in a moment อยู่ช่วยแก้ปัญหา ทำให้ดีที่สุด ไม่ใช่หนีหาย หรือส่งใครแก้ปัญหาคนเดียว
• They have a thirst for learning.
  • กระหาย(thirst)ในการเรียนรู้ เปิดรับสิ่งใหม่ๆ - ผมนึกถึงคำพูดของ Steve Job "Stay Hungry, Stay Foolish."
• They believe that any group of people can do good things in the world
  • กลุ่มคนถ้าอยู่ด้วยกันทำสิ่งดีๆได้ ตอนเริ่มแรกไม่มีใรทำงานอะไรได้ ต้องโอกาส ให้คนในทีมทำหน้าที่ต่างสลับกันไปครับ เพื่อปรับจูนความสามารถให้ใกล้เคียงกันครับ
  • ไม่แน่ใจว่ามาจากพวก Design Thinking หรือป่าวที่แนะนำให้คัดคน "T Shape" People เข้าองค์กรครับ โดยมีกลุ่มคน2 กลุ่ม ได้แก่ "I Shape" People กับ "T Shape" People รู้สึกว่ามีรูปแบบเยอะกว่านี้นะ
    • "I Shape" People - ตัว I คนที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญที่ลึกในด้านใดด้านหนึ่ง (Specialist) ในยุคพวกก่อนจะถูกสอนมาแบบนั้น
    • "T Shape" People - ตัว T มองที่ขีดลง มันเหมือนตัว I คนที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญที่ลึกในด้านใดด้านหนึ่ง (Specialist) และมีความรู้ทั่วไปด้วยในด้าน ขีดขวาง ของตัว T (General List)

    

• They have a low tolerance for institutional reasons that hold people back from excellence.
  • Coach หรือ Manager ที่ต้องกล้าที่แย้งกับกฏเกณฑ์ขององค์กรที่มันฝืนธรรมชาติ หรือไม่จำเป็น เช่น Flow เอกสารที่ทำไปเปลืองเวลา ซ้ำซ้อน แถมบางครั้งเนื้อหามันไม่สอดคล้องกันอีก
• They risk being wrong. When they are wrong, they own up to it and move on.
  • กล้าที่รับผิดชอบเมื่อลูกน้องทำผิดพลาด เช่น เราเสี่ยงที่ให้เพิ่มโมดูลการอ่านกฏจากไฟล์ XSD ขึ้นมาใช้ในการ Validate XML เพราะ ไม่อยากไปเขียน Code จุกจิ เพื่อ Validate ข้อมูล ถ้าน้องทำไม่ได้ น้องไม่ไ้ผิด มันผิดที่เรา เราต้องกล้าที่จะยอมรับมัน
• They believe that disequilibrium is essential. Chaos and destruction are simply building blocks for something better. Messiness is expected.
  • ทีมที่ดี ควรมีความขัดแย้ง ควาวุ่นวายบ้าง แย้งในทางบวกนะ เหมือนน้ำกระเพื่อม ไม่ใช่คลื่นใต้น้ำ
  • ถ้าน้ำนิ่งแล้ว เราต้องเพิ่มความวุ่นวาย เช่น เพิ่ม Quality
  • วิธีการนั้นมี Kaizen - Continuous Improvement >> หาปัญหา แก้ไขมัน และสร้าง Flow ทางเดินให้มันไหลต่อไปได้

แม้ Session นี้เป็น Session ไม่ได้วางแผนเข้าไปฟังแต่แรก แต่มันใช้ประโยชน์ได้จริง ไม่ว่าเราจะใช้ Agile หรือไม่ก็ตามครับ ^___^