[WordPress] นำ Facebook Fanpage มาติดใน WordPress

ในยุคนี้อะไรก็ Social Network กันหมด หากอยากจะโปรโมทอะไรสักอย่างบนเว็บทางที่ดีที่สุด คือ ทำ Fan Page และวันนี้ผมนำเสนอวิธีการเพิ่ม Like Box มาลงใน WordPress ของเรา เพิ่มโปรโมทให้คนรู้จักครับ เข้าไปที่เว็บไซต์ เราพบช่องให้กรอกรายละเอียดสำหรับ Fan Page เราดังนี้ Facebook Page URL: ลิงค์ Fan Page ของเรา ตัวอย่างที่ใช้จะเป็น  Width: ความกว้างของ Like Box High: ความสูงของ Like Box Color Scheme: Theme ของ Like Box มี 2 แบบ ได้แก่ light กับ dark Show Friends’ Faces: แสดงหน้าของคนที่ Like Page เรา Show Post: แสดงโพสล่าสุดบนหน้า Fan Page Show Header: แสดงหัวเรื่อง Show Border: แสดงเส้นขอบ เมื่อกด Get Code แล้ว เราได้ Code สำหรับไปแปะบน WordPress ของเรา กรณีนี้ให้เลือกเป็น iframe และ copy code เก็บไว้ กลับมาที่ WordPress ของเรากัน ให้ไปหน้า Admin >> Appearance >> Widgets และลาก Widget Text มาวางที่ Side Bar และตั้งค่า…

[WordPress] เรียง Category บน Side bar ให้ได้ดังใจนึก

บางครั้งเราอยากจัดหมวดหมู่ของบทความในบล๊อกเราให้เรียงตามตัวอักษร หรือเรียงตามใจเรา แต่มันต้องทำอะไรบ้าง มี 2 วิธี ได้แก่ แบบที่ 1 ลง plugin เสริม แนะนำให้ใช้ตัวนี้ My Category Order (จิ้มเลย) จัดเรียงได้ตามใจ แต่มีผลกับ Theme ของเราในเรื่องของฟอนต์ และการ Design Category Order (จิ้มเลย) ตามความเห็นส่วนตัว ไม่แนะนำใช้ใช้งาน เพราะตัว plug-in ไม่ได้รับการอัปเดตมานานแล้ว ซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหากับ WordPress เวอร์ชันใหม่ๆได้ Category Order and Taxonomy Terms Order (จิ้มเลย) จุดเด่น คือ การแก้ไขการจัดเรียงต่างๆ จะไม่สงผลกระทบกับ Theme สามารถตั้งค่าการเรียงของ Category ได้ในไม่กีคลิก สามารถจัดเรียง Category ได้โดยเข้ามาที่ Post >> Taxonomy Order >> จากนั้นกดลาก Category เอามาจัดเรียงได้ตามต้องการเลย แบบที่ 2 Hard code แก้ในไฟล์ Sidebar.php ของ Theme แก้ไขตรงส่วน [php]<php wp_list_categories(‘orderby=ID’);> [/php] รูปแบบการเรียงมีอยู่ ดังนี้ ID name – Default slug count term_group อ้างอิงข้อมูล: 

[SQL Server] เชื่อหรือไม่ว่า SQL เอาตัวเลขมาลบกันได้

Microsoft SQL Server

พอดีวันนี้งานที่ทำมีโจทย์ให้ว่าให้หาข้อมูลการซื้อ(BUY) และข้อมูลการขาย (SELL)  ณ ช่วงเวลาหนึ่ง เพื่อหาจำนวนสินค้าที่มีเรามีถืออยู่ (On Hand) ข้อมูลโครงสร้างตารางต่างๆ เลยได้เป็นที่มาของ Blog เชื่อหรือไม่ว่า SQL เอาตัวเลขมาลบกันได้ ทำงานแรกๆ เตรียมข้อมูล ความต้องการ(โจทย์) จากข้อมูลการซื้อ(BUY) และข้อมูลการขาย (SELL)  ณ ช่วงเวลาหนึ่ง(ระหว่างวันที่ 01-OCT-2013 ถึง 10-OCT-2013) เพื่อหาจำนวนสินค้าที่มีเรามีถืออยู่ (On Hand) วิธีการแก้ปัญหา หากติดความจากโจทย์เราสามารถแบ่งออกเป็น Query ย่อยๆ ได้ดังนี้ สรุป ภาษา SQL ทำอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด เพียงแค่ต้องรู้จักลองและทดสอบ จากตัวอย่างนี้หลักทีใช้ คือ Keyword AS, Operator minus และทริกการ SELECT ซ้อนกัน ถ้าหากเราเอาไปเขียนโปรแกรม ต้องมี Loop เพิ่มเพื่อหาผลรวมอีก ซึ่งหากมีข้อมูลเยอะๆประมาณ 100,000 รายการแล้ว เราจะพบถึงความแตกต่างในแง่ของความเร็วอย่างชัดเจน

[SQL Server] SELECT แปลง Column ที่เป็น null ให้เป็น 0

Microsoft SQL Server

หลายครั้งที่ต้องเจองานในการเขียน SQL ประเภทการหาผลรวม (SUM) ของรายการ ตามเงื่อนไข A, B, C, D และอื่นๆจิปาถะ ลองมาดูตัวอย่างกัน เตรียมข้อมูล ความต้องการ(โจทย์) มาดูโจทย์ เราต้องการหาผลรวมของ Unit เฉพาะรายการขาย(BUY) ที่ยืนยันแล้ว(ISCONFIRM) และมีวันขายสินค้าระหว่างวันที่ 1-Oct-2013 ถึง วันที่ 10-Oct-2013 โดยสามารถเขียน Query ได้ ดังนี้ ปัญหา หากเรามีรายการใหม่ขึ้นมา ได้แก่การ รายการประเภทซื้อเชื่อ(BUY_CREDIT) พอทดสอบ Query พบว่าได้ค่า NULL เพราะ ไม่มีข้อมูลที่ตรงตามเงื่อนไข แต่ถ้าระบบส่งข้อมูลยังโปรแกรมที่เราพัฒนาขึ้น USER คงไม่เข้าใจ และอาจจะเกิด ERROR ขึ้นมาได้ วิธีการแก้ไข ใช้ฟังก์ชัน (function) coalesce(<column>, 0) เพื่อแปลงค่า NULL เป็นค่าที่่ต้องการ เช่น 0 ดัง QUERY ดังนี้ สรุป การเขียนโปรแกรม แต่ละแบบเราควรดักความผิดพลาด หรือจัดการกับมันตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้โปรแกรมที่เราพัฒนานั้นมีความเชื่อถือ และมีผลลัพธ์ที่ถูกต้อง

[SQL Server] ปัญหา row cannot be located for updating. some values may have been changed since it was last read

Microsoft SQL Server

ปัญหา row cannot be located for updating. some values may have been changed since it was last read สาเหตุ เกิดจากการตารางที่โปรแกรม หรือ App ที่เรากำลังพัฒนาได้ถูกใช้งานอยู่ หากใครเคยเรียน DB มา มีศัพท์เทคนิคอีกย่างนึง เรียกว่า Isolation Level นั้นเอง โดยสามารถเกิดได้จาก 2 กรณี ดังนี้ วิธีการแก้ไข กรณีที่ 1: ให้ตรวจสอบตารางที่เกี่ยวข้องกับหน้าจอนั้น ว่ามี Trigger ที่เกี่ยวข้อง หรือไม่ ถ้ามี กรณีที่ 2: ถ้าทดสอบแล้ว ไม่เกี่ยวกับตัว Trigger ไปตรวจสอบการตั้งค่า Isolation level ของฐานข้อมูล และปรับแก้ไขให้เหมาะสมครับ Update ถ้าเป็น dotnet จะ Error แนวๆ แหล่งข้อมูล

[SQL Server] SELECT * FROM TABLE WHERE 1 > 2

SELECT * FROM TABLE WHERE 1 > 2 คือ อะไร เวลาทำงานหลายคนอาจจะเจอ SQL แปลกๆ เช่น Q: WHERE 1 > 2 คือ อะไร ?A: คือ การ SELECT ข้อมูล RECORD เปล่าขึ้นมา เพื่ออัปเดต หรือ ทำเป็น TEMP Table เพื่อการใช้งานต่อไป ตัวอย่างการใช้งาน – SELECT RECORD เปล่าขึ้นมา Update Recordset ใน VB6 – สร้าง Table ขึ้นมาใหม่ เช่น

[MSSQL] การ Restore Database จากไฟล์ .bak

Microsoft SQL Server

ในบางครั้งเวลาที่เราทำงาน อาจจะต้องเอาไฟล์ Database จากที่อื่นมาใช้งาน หาก Detach ออกมาก็ทำให้ Database ตัวเดิมนั้นใช้งานไม่ได้ด้วย ตอนนี้ผมนำเสนอวิธี Restore Database จากไฟล์ .Bak ตามขั้นตอนต่อไปนี้ครับ

บทที่ 15 คิดอย่างแตกต่างกับเรื่องเล่าของคุณ(สรุปโดยพี่ปิง COMSWU#21)

สรุปใจความ นวัตกรรมหลายอย่างที่ไม่ได้รับความสนใจ เพราะขาดการนำเสนอที่ดี ดังนั้นคุณควรพัฒนาทักษะในการพูดให้ดีขึ้น เช่นการตอบคำถามให้ชัดเจน และเข้าใจได้ง่าย เล่าเรื่องในแบบอมตะเช่น ฮีโร่-ผู้ร้าย โดยหลักเจ็ดอย่างที่จ๊อบใช้ ยังมีอีกอย่างหนึ่ง…อย่าให้พวกงี่เง่ามาทำให้คุณเสียกำลังใจ จ๊อบเคยถูกปฏิเสธมาหลายต่อหลายครั้ง ถูกท้าทาย แต่เขาไม่เปลี่ยนใจ ไม่ล้มเลิกที่จะสร้างโลกที่ดีกว่านี้ขึ้นมา หากคุณมีความฝัน และรักที่จะทำมัน ขอให้คุณมีตั้งใจที่จะสร้างสิ่งที่ดี อดทน และไว้ใจในสิ่งที่ตนรัก คุณต้องกล้าและบ้านิดๆ มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน และนวัตกรรมก็จะงอกเงยขึ้นมาได้ สรุปโดยพี่ปิง COMSWU#21

บทที่ 14 นักเล่าเรื่องที่เก่งที่สุดในโลก(สรุปโดยพี่ปิง COMSWU#21)

สรุปใจความ จ๊อบเป็นนักเล่าเรื่องที่ดีที่สุด เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการนำเสนองานและการโฆษณา คำนิยามสินค้าของเขาจะสั้นและกระชับ แต่สื่อความหมายชัดเจน เขามีฮีโร่และผู้ร้ายในการนำเสนอเสมอ เช่น ไอบีเอ็มถูกเปรียบเป็นผู้ร้ายที่จะมายึดครองโลกของคอมพิวเตอร์ และแอปเปิ้ลเป็นฮีโร่ที่เข้ามาขัดขวาง ใช้กฎกลุ่มละสาม เพราะคนเรามีความสามารถในการจดจำ ระยะสั้นในสามถึงสี่เรื่องเท่านั้น ใช้ภาพประกอบที่เรียบง่ายได้ใจความ แต่ในการนำเสนอเขาจะใช้ศัพท์ที่ที่สะใจเข้าถึงอารมณ์ของผู้ชม สรุปโดยพี่ปิง COMSWU#21

บทที่ 13 คิดอย่างแตกต่างกับเรื่องประสบการณ์แบรนด์ของคุณ(สรุปโดยพี่ปิง COMSWU#21)

สรุปใจความ คุณต้องทำให้ลูกค้าประทับใจและจดจำใน BRAND ของคุณด้วยวิธีต่างๆ เช่น การสร้างความแตกต่างให้กับ BRAND สร้างวัฒนธรรมให้พนักงานในบริษัท เพื่อให้พวกเขานำไปใช้และสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ด้วยความเรียบง่าย และใส่ใจความรู้สึกของลูกค้าเสมอ สรุปโดยพี่ปิง COMSWU#21