Category นายแว่นสตอรี่

เรื่องเล่าของนายแว่น ผู้ก่อตั้ง debuggingsoft ทำงานที่ไหน เคยเรียนอะไร

บทที่ 8 มองเห็นความอัจฉริยะในความบ้าของพวกเขา(สรุปโดยพี่ปิง COMSWU#21)

สรุปใจความ ใส่ใจลูกค้า ไม่เห็นลูกค้าเป็นเพียงถุงเงิน ลูกค้าคือผู้ที่มอบความไว้วางใจในสินค้าของคุณ โดยคุณต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้า จริงๆ สิ่งที่จะทำให้เขาประทับใจในตัวสินค้า โดยคิดว่าเราต้องการอะไรเหมือนเราเป็นลูกค้าเอง คาดเดาสิ่งที่พวกเขาจะประทับใจ สรุปโดยพี่ปิง COMSWU#21

บทที่ 7 คิดอย่างแตกต่างกับวิธีคิดของคุณ(สรุปโดยพี่ปิง COMSWU#21)

สรุปใจความ ในการสร้างนวัตกรรม ทักษะบางอย่างต้องได้รับการฝึกฝน เพื่อที่จะนำไปใช้งาน เช่นการการตั้งคำถาม ทำไม แล้วจะเป็นอย่างไรถ้า จะช่วยให้เกิดคำตอบที่ดีกว่าอย่างไร การทดลองช่วยให้เกิดประสบการณ์ที่แปลกใหม่ในทุกครั้ง การเข้าร่วมงานต่างๆเช่นกัน การพบผู้คนใหม่ๆ สิ่งใหม่ๆ ช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น การเฝ้าสังเกตเป็นประจำทำให้เราพบไอเดียสำคัญมากมาย ช่วยพัฒนาสินค้าให้ดียิ่งขึ้นจากการสังเกตพฤติกรรมของผู้คน สรุปโดยพี่ปิง COMSWU#21

บทที่ 6 มองหาประสบการณ์ใหม่ๆ(สรุปโดยพี่ปิง COMSWU#21)

สรุปใจความ ความคิดสร้างสรรค์สำหรับจ๊อบคือการเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ เข้ารวมกัน ถึงแม้มันจะไม่เกี่ยวข้องกันเลยก็ตาม เช่น คอมพิวเตอร์กับเครื่องหุงข้าวไฟฟ้าของญี่ปุ่น เราต้องคิดอย่างแตกต่างกับของผู้อื่น โดยการหาประสบการณ์ใหม่อยู่เสมอ ซึ่งให้จ๊อบรู้จักการเปรียบเทียบเพื่อนำเสนอให้ลูกค้าได้เห็นภาพของสิ่งเขานำเสนอ ช่วยให้ลูกค้าเข้าใจได้ง่ายขึ้น สรุปโดยพี่ปิง COMSWU#21

บทที่ 5 คิดอย่างแตกต่างกับวิสัยทัศน์ของคุณ(สรุปโดยพี่ปิง COMSWU#21)

ในภารกิจส่งคนขึ้นดวงจันทร์ของอะพอลโล 11 นั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าขาดวิสัยทัศน์ของประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี้ ที่มุ่งมั่นที่จะส่งคนไปลงบนดวงจันทร์ให้ได้ ทั้งๆ ที่มีเพียงคนไม่กี้คนที่รู้วิธีที่นำคนไปบนดวงจันทร์ จรวดยังไม่ได้สร้าง แต่ด้วยพลังของวิสัยทัศน์ที่ช่วยจุดประกายให้ผู้คนร่วมมือกันสร้างสิ่งนี้ให้เกิดขึ้น ทุกคนต่างมุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จ ไม่ใช่เพราะเป็นความคิดของเคนเนดี้แต่เป็นเพราะทุกคนต้องการจะทำมันให้สำเร็จ เคนเนดี้ไม่ได้ขายโครงการอวกาศแต่ขายอิสรภาพจากการถูกกดขี่ หลังจากที่โซเวียตได้ส่งคนขึ้นไปโคจรบนอวกาศได้สำเร็จ เช่นเดียวกับจ๊อบที่ไม่ได้ขายแค่คอมพิวเตอร์ เขาขายอิสรภาพจากไอบีเอ็ม ที่ตอนนั้นเป็นจ้าวแห่งวงการคอมพิวเตอร์ สมัยแรกนั้นแมคอินทอชมีซอฟท์แวร์ให้ใช้น้อยมาก จนกาย คาวาซากิต้องไปกล่อมให้นักพัฒนามาร่วมมือสร้างซอฟท์แวร์ให้โดยวิสัยทัศน์ของแอปเปิ้ล ทำให้พวกเขาอยากสร้างประวัติศาสตร์ไปด้วยกัน ดังนั้นแอปเปิ้ลไม่ได้ขายสินค้าแต่เป็นสาวกผู้ที่มีความคิดเดียวกัน จ๊อบเคยสั่งให้ทำซอฟท์แวร์ใหม่ที่ไม่มีคำว่า ใช้สำหรับสาธิต แต่การสร้างเวอร์ชั่นเต็มเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่จ๊อบก็กล่อมให้ทีมพัฒนารู้ว่าพวกเขาเก่งขนาดไหน และยืนยันความคิดเดิมโดยไม่สนว่าใครจะคัดค้าน และแล้วทีมงานก็ทำได้สำเร็จก่อนเวลาส่งมอบ 15 นาที วิสัยทัศน์ที่กล้าแข็งจะช่วยให้ทีมงานมีความกระตือรือร้นมากขึ้น จ๊อบปลูกฝังทัศนคติให้กับพนักงานของเขาว่า ถึงเราจะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร แต่เราก็จะทำมัน เราจะหาทางทำมันให้ได้ เหมือนกับบริษัทเอนเทอร์จี้ บริษัทที่จ่ายไฟฟ้าให้กับพื้นที่ที่โดนพายุเฮอร์ริเคนพัดถล่ม ทางบริษัทได้ประกาศให้พนักงานจัดการกับวิกฤษของตนเองก่อน แต่พนักงานกลับมาทำงานในทันที…

บทที่ 4 เป็นแรงบันดาลใจให้กับเหล่าสาวก(สรุปโดยพี่ปิง COMSWU#21)

ใน ปี 1977 ร็อบ แคมเบลล์ เป็นโปรแกรมเมอร์ในบริษัทเล็กๆ ขณะนั้น เขาได้คิดโปรแกรมบัญชีขึ้นมา จ๊อบสนในความคิดของเขาจึงติดต่อให้ไปพบ แต่แคมเบลล์เลือกไปพบกับบริษัทคู่แข่งของจ๊อบสองแห่งก่อนคือแทนดี้และคอมมอดอร์ วิสัยทัศน์ของเขาสองบริษัทแรกนั้นไม่เป็นที่ถูกใจของแคมเบลล์เลย แทนดี้เห็น pc เป็นสินค้ากระแส คอมมอดอร์เป็น pc เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มราคาหุ้น แต่จ๊อบเห็นว่า pc สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้อย่างไร ซึ่งเป็นสิ่งที่แคมเบลล์ประทับใจมาก จ๊อบเป็นคนที่มองเห็นข้ามขอบฟ้า มองเห็นอนาคตว่าสิ่งที่ทำจะส่งผลต่อโลกอย่างไร เขาเลือกจ้างคนที่เก่งที่สุดในแต่ละวงการ คนที่สามารถทำวิสัยทัศน์ของเขาให้กลายเป็นจริงได้ เขามีวิธีการชักชวนคนให้เข้าร่วมทำงานกับเขาอย่างเรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง เขามีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและมีพลังจนไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ ในการขายหุ้นมีหนังสือลับที่พยากรณ์ความสำคัญของ pc ไว้ได้ถูกต้อง จ๊อบเห็นว่าบ้านที่มี pc นั้นจะได้เปรียบบ้านที่ไม่มีอยู่มาก วิสัยทัศน์เช่นนี้จึงทำให้แคมเบลล์สนใจที่จะทำงานกับจ๊อบ แอปเปิ้ลมีวิสัยทัศน์ที่เรียบง่ายและชัดเจนคือการนำคอมพิวเตอร์ไปสู่มือของคนทั่วไป ซึ่งต่างจากพันธกิจที่บอกให้รู้ว่าเราทำอะไร วิสัยทัศน์คือวิธีทำให้โลกดียิ่งขึ้น ในแอปเปิ้ล การจ้างคนที่เก่งที่สุดมาท้าทายกันเองในบริษัทเพื่อสร้างผลงานที่ดีที่สุด ลีนเดอร์…

บทที่ 3 คิดอย่างแตกต่างในหน้าที่การงานของคุณ(สรุปโดยพี่ปิง COMSWU#21)

บิล สตริกแลนด์ ผู้เขียนหนังสือและผู้นำชุมชนเป็นหนึงในตัวอย่างการเลือกทำในสิ่งที่รักได้เป็นอย่างดี ตอนเด็กเขาอาศัยอยู่ในชุมชนแออัดยากจน เขาแทบไม่ไม่เข้าเรียนหนังสือเลย จนกระทั่งเขาได้พบกับแฟรง รอส ครูวิชาเครื่องปั้นดินเผา เขาพบว่าเครื่องปั้นดินเผาเป็นสิ่งที่สวยงาม และเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ทำให้เขาได้คิดว่ายังมีสิ่งที่เขายังไม่รูจักอีกมากมาย ช่วยให้เติมไฟในความฝันของเขา หลังจากเรียนจบเขาได้เรียนเป็นนักบิน และเข้าทำงานจนกระทั่งบริษัทล้มละลาย เขาสามารถเลือกที่จะเป็นนักบินต่อไปได้ แต่นั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ เขาต้องการเปลี่ยนแปลงโลก เขาออกมาสร้างโครงการสอนศิลปะให้เด็กๆ และศูนย์ฝึกอาชีพให้กับผู้ใหญ่ เขามีความคิดคล้ายกับสตีฟ จ๊อบคือเลือกทำในสิ่งที่รัก เพราะเขาเชื่อว่าความมีใจรักเป็นเชื่อเพลิงที่ใช้ขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ในก้าวต่อไป แม้จะถูกท้าทายจากสิ่งต่าง หรือการถูกปฏิเสธจากผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งญาติพี่น้องของคุณเองด้วย มันทำให้คุณก้าวเดินได้แม้จะมองไม่เห็นจุดหมายเลยก็ตาม ความมีใจรักไม่สามารถช่วยคุณจากความตกต่ำได้ แต่มันช่วยให้คุณอยู่ได้แม้ว่าตกต่ำซักเพียงไหน เจมส์ไดสัน นักประดิษฐ์เครื่องดูดฝุ่น เพราะเขาไม่พอใจที่เครื่องดูดฝุ่นแบเดิมนั้น ไม่สามารถดูดฝุ่นได้สะอาด เขาล้มเหลวหลายครั้ง อยากจะเลิกทำทุกๆ วัน แต่เพราความรักความสนุกในการประดิษฐ์ ความอดทนอันมหาศาลการประดิษฐ์ครั้งที่ 5127 เขาก็สามารถสร้างเครื่องดูดฝุ่นที่ปฏิวัตวงการได้สำเร็จ ไดสันมีความเชื่อว่าในการรับพนักงานใหม่…

บทที่ 2 ทำตามเสียงหัวใจเรียกร้อง(สรุปโดยพี่ปิง COMSWU#21)

จ๊อบเลือกที่จะลาออกจากมหาวิทยาลัยรีด เพราะไม่เห็นความจำเป็น ไม่ใช่สิ่งที่เขารักที่จะทำ ตอนนี้เขาไม่จำเป็นที่จะต้องเรียนวิชาที่ไม่สนใจอีก แล้วสามารถลงเรียนวิชาที่ตนเองต้องการได้ หลังจากที่เขาลาออก จ๊อบใช้ชีวิตอย่างฮิปปี้ เก็บขวดโค้กไปขาย แต่เขาก็รักช่วงชีวิตตอนนี้มาก เพราะเขาได้ทำตามความอยากรู้อยากเห็นของตนเอง ซึ่งทำให้เขาได้เลือกเรียนวิชาคัดลายมือที่มหาวิทยาลัยรีดมีโปสเตอร์ที่ติดที่มหาวิทยาลัยมีตัวอักษรสวยงาม ทั้งนี้เพราะรีดเป็นมหาวิทยาลัยศิลปะที่ขึ้นชื่อเรื่องศิลปะคัดลายมือเป็นอันดับหนึ่ง จ๊อบไม่คิดว่าสิ่งที่เขาเรียนจะช่วยอะไรได้ จนกระทั่งสิบปีให้หลัง ขณะที่ออกแบบแมคอินทอช เขาเลือกที่จะใส่มันลงไปทำให้มันกลายเป็นคอมพิวเตอร์ที่มีตัวอักษรลวดลาย รอน บารอนเป็นตัวอย่างของความสำเร็จ เขาเป็นคนไม่ย่อท้อต่องานหนัก เขามีคติประจำตัวว่าลงทุนในตัวคนไม่ใช่ตัวอาคาร เขามีความเชื่อในการทำสิ่งที่รักเหมือนจ๊อบ มีพรสวรรค์ในการมองหาผู้บริหารและทีมงานที่มีใจรักจะทำให้วิสัยทัศน์เป็นจริงได้ สตีฟ โวซเนียก หุ้นส่วนที่ร่วมก่อตั้งแอปเปิ้ลมากับสตีฟจ๊อบ มีนิสัยคล้ายคลึงกัน จนทำให้กลายเป็นเพื่อนรัก เพื่อร่วมงาน เขาเคยกล่าวว่าเขารักในการพิมพ์ดีด เขาอาสาที่จะพิมพ์รายงานจนตีสี่ตีห้าโดยไม่คิดเงิน เพราะถ้าคุณรักในสิ่งที่ทำ คุณจะไม่ห่วงเรื่องเงินๆ ทองๆ เลย จ๊อบมีความเชื่อว่าเราไม่ควรลงหลักปักฐานกับงานงานเดียว ควรค้นหาสิ่งที่ตัวเองรักที่จะทำจริงๆ ก่อน เพราะการที่เราจะประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องอาศัยความอุตสาหะเป็นอย่างมาก หากสิ่งที่ทำไม่ใช่สิ่งที่รักจริงๆ…

บทที่ 1 สตีฟ จ๊อบจะทำอย่างไร(สรุปโดยพี่ปิง COMSWU#21)

Bigzero พอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์ เจ้าของรางวัลโนเบล กล่าวว่า ทศวรรษที่ผ่านมาไม่มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นเลย แต่จริงมีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นคือ การที่สตีฟ จ๊อบกลายเป็นบิ๊กฮีโร่ในการกอบกู้แอปเปิ้ลให้กลับคืนมาได้ สรุปใจความ สตีฟ จ๊อบเป็นบุคคลสำคัญใรวงการนวัตกรรม เข้ามีแนวคิดใหม่ๆ ที่ทำให้เกิดสิ่งประดิษฐ์ดีๆ เกิดขึ้นมากมาย เช่น ipod macbook เป็นต้น ชีวิตประจำวันของคุณจะเกี่ยวข้องกับจ๊อบโดยที่คุณไม่รู้ตัว เราจึงควรศึกษาหลักการของเขา เพื่อนำไปปรับใช้กับตัวเราเอง โดยหนังสือเล่มนี้จะนำหลักการของสตีฟ จ็อบมาอธิบาย มีทั้งหมด 7 หลักการ

[Internship@True]วันที่ 28-29

ในสองวันนี้ ก่อนจบการฝึกงานที่ยาวนานกว่าสองเดือน(ไม่ได้ทำกับทีม แต่ไปทำกับ Outsource) ผมได้รวมงานของผมที่ทำกับงานของพี่ โดยไฟล์ในส่วนที่พี่ทำใหม่นั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงเท่าที่สังเกตมา 2 อย่าง ได้แก่่ การสร้างส่วนของ Class ต่างๆ จากเดิมที่ใช้ aBator มาเป็นการใช้ MyBatis(iBatis แต่เปลี่ยนชื่อใหม่) และใช้ Tools MyBatis generator ในการสร้างClass, DAO และ sqlMap และมีการใช้งานที่ง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะใน่สวนของ where clause ที่เราสามารถที่จะเรียก method มาเพื่อให้ตัว Framework มัน Mapping ให้ การวางพื้นฐานการออกตัว Report มาให้แล้ว อันนี้ยังไม่ได้ศึกษาจากที่พี่ทำมาเลยฮ่าๆ

[Internship@True]วันที่ 27

วันนี้ศึกษาการนำเสนอข้อมูลด้วยกราฟเพิ่มเติม(จากที่อาจารย์สอน เราก็ไม่ได้อะไรเลย อ.มัว แต่ไปรับงานนอก) โดยจากข้อมูลที่ได้มา แต่ต้องการที่จะเอาข้อมูลในส่วนของ filter, transmitted และ received โดยกราฟที่ได้ทดลองและศึกษา ได้แก่  แผนภูมิเส้น เพราะจะนำมาแสดงความต่อเนื่องของค่า  filter, transmitted และ received ในแต่ละวัน/เดือนได้ แต่มีปัญหาตรงที่เวลาไป plot แล้วนั้น ในส่วนของ transmitted  กับ received มีความทับซ้อนกัน เพราะค่าทั้ง 2 มีความใกล้เคียงกันมาก เลยไม่ได้ใช้กราฟชนิดนี้ แผนภูมิคอลัมน์ แบบเรียงซ้อน (Stack) จะหาผลรวมของ 3 ค่า   filter, transmitted และ received รวมออกมาในแท่งเดียว เพื่อที่จะลดพื้นที่ในแสดงผลลง แต่มีปัญหา คือ…