Tag สตีฟ จ๊อบ

บทที่ 15 คิดอย่างแตกต่างกับเรื่องเล่าของคุณ(สรุปโดยพี่ปิง COMSWU#21)

สรุปใจความ นวัตกรรมหลายอย่างที่ไม่ได้รับความสนใจ เพราะขาดการนำเสนอที่ดี ดังนั้นคุณควรพัฒนาทักษะในการพูดให้ดีขึ้น เช่นการตอบคำถามให้ชัดเจน และเข้าใจได้ง่าย เล่าเรื่องในแบบอมตะเช่น ฮีโร่-ผู้ร้าย โดยหลักเจ็ดอย่างที่จ๊อบใช้ ยังมีอีกอย่างหนึ่ง…อย่าให้พวกงี่เง่ามาทำให้คุณเสียกำลังใจ จ๊อบเคยถูกปฏิเสธมาหลายต่อหลายครั้ง ถูกท้าทาย แต่เขาไม่เปลี่ยนใจ ไม่ล้มเลิกที่จะสร้างโลกที่ดีกว่านี้ขึ้นมา หากคุณมีความฝัน และรักที่จะทำมัน ขอให้คุณมีตั้งใจที่จะสร้างสิ่งที่ดี อดทน และไว้ใจในสิ่งที่ตนรัก คุณต้องกล้าและบ้านิดๆ มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน และนวัตกรรมก็จะงอกเงยขึ้นมาได้ สรุปโดยพี่ปิง COMSWU#21

บทที่ 14 นักเล่าเรื่องที่เก่งที่สุดในโลก(สรุปโดยพี่ปิง COMSWU#21)

สรุปใจความ จ๊อบเป็นนักเล่าเรื่องที่ดีที่สุด เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการนำเสนองานและการโฆษณา คำนิยามสินค้าของเขาจะสั้นและกระชับ แต่สื่อความหมายชัดเจน เขามีฮีโร่และผู้ร้ายในการนำเสนอเสมอ เช่น ไอบีเอ็มถูกเปรียบเป็นผู้ร้ายที่จะมายึดครองโลกของคอมพิวเตอร์ และแอปเปิ้ลเป็นฮีโร่ที่เข้ามาขัดขวาง ใช้กฎกลุ่มละสาม เพราะคนเรามีความสามารถในการจดจำ ระยะสั้นในสามถึงสี่เรื่องเท่านั้น ใช้ภาพประกอบที่เรียบง่ายได้ใจความ แต่ในการนำเสนอเขาจะใช้ศัพท์ที่ที่สะใจเข้าถึงอารมณ์ของผู้ชม สรุปโดยพี่ปิง COMSWU#21

บทที่ 5 คิดอย่างแตกต่างกับวิสัยทัศน์ของคุณ(สรุปโดยพี่ปิง COMSWU#21)

ในภารกิจส่งคนขึ้นดวงจันทร์ของอะพอลโล 11 นั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าขาดวิสัยทัศน์ของประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี้ ที่มุ่งมั่นที่จะส่งคนไปลงบนดวงจันทร์ให้ได้ ทั้งๆ ที่มีเพียงคนไม่กี้คนที่รู้วิธีที่นำคนไปบนดวงจันทร์ จรวดยังไม่ได้สร้าง แต่ด้วยพลังของวิสัยทัศน์ที่ช่วยจุดประกายให้ผู้คนร่วมมือกันสร้างสิ่งนี้ให้เกิดขึ้น ทุกคนต่างมุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จ ไม่ใช่เพราะเป็นความคิดของเคนเนดี้แต่เป็นเพราะทุกคนต้องการจะทำมันให้สำเร็จ เคนเนดี้ไม่ได้ขายโครงการอวกาศแต่ขายอิสรภาพจากการถูกกดขี่ หลังจากที่โซเวียตได้ส่งคนขึ้นไปโคจรบนอวกาศได้สำเร็จ เช่นเดียวกับจ๊อบที่ไม่ได้ขายแค่คอมพิวเตอร์ เขาขายอิสรภาพจากไอบีเอ็ม ที่ตอนนั้นเป็นจ้าวแห่งวงการคอมพิวเตอร์ สมัยแรกนั้นแมคอินทอชมีซอฟท์แวร์ให้ใช้น้อยมาก จนกาย คาวาซากิต้องไปกล่อมให้นักพัฒนามาร่วมมือสร้างซอฟท์แวร์ให้โดยวิสัยทัศน์ของแอปเปิ้ล ทำให้พวกเขาอยากสร้างประวัติศาสตร์ไปด้วยกัน ดังนั้นแอปเปิ้ลไม่ได้ขายสินค้าแต่เป็นสาวกผู้ที่มีความคิดเดียวกัน จ๊อบเคยสั่งให้ทำซอฟท์แวร์ใหม่ที่ไม่มีคำว่า ใช้สำหรับสาธิต แต่การสร้างเวอร์ชั่นเต็มเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่จ๊อบก็กล่อมให้ทีมพัฒนารู้ว่าพวกเขาเก่งขนาดไหน และยืนยันความคิดเดิมโดยไม่สนว่าใครจะคัดค้าน และแล้วทีมงานก็ทำได้สำเร็จก่อนเวลาส่งมอบ 15 นาที วิสัยทัศน์ที่กล้าแข็งจะช่วยให้ทีมงานมีความกระตือรือร้นมากขึ้น จ๊อบปลูกฝังทัศนคติให้กับพนักงานของเขาว่า ถึงเราจะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร แต่เราก็จะทำมัน เราจะหาทางทำมันให้ได้ เหมือนกับบริษัทเอนเทอร์จี้ บริษัทที่จ่ายไฟฟ้าให้กับพื้นที่ที่โดนพายุเฮอร์ริเคนพัดถล่ม ทางบริษัทได้ประกาศให้พนักงานจัดการกับวิกฤษของตนเองก่อน แต่พนักงานกลับมาทำงานในทันที…

บทที่ 4 เป็นแรงบันดาลใจให้กับเหล่าสาวก(สรุปโดยพี่ปิง COMSWU#21)

ใน ปี 1977 ร็อบ แคมเบลล์ เป็นโปรแกรมเมอร์ในบริษัทเล็กๆ ขณะนั้น เขาได้คิดโปรแกรมบัญชีขึ้นมา จ๊อบสนในความคิดของเขาจึงติดต่อให้ไปพบ แต่แคมเบลล์เลือกไปพบกับบริษัทคู่แข่งของจ๊อบสองแห่งก่อนคือแทนดี้และคอมมอดอร์ วิสัยทัศน์ของเขาสองบริษัทแรกนั้นไม่เป็นที่ถูกใจของแคมเบลล์เลย แทนดี้เห็น pc เป็นสินค้ากระแส คอมมอดอร์เป็น pc เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มราคาหุ้น แต่จ๊อบเห็นว่า pc สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้อย่างไร ซึ่งเป็นสิ่งที่แคมเบลล์ประทับใจมาก จ๊อบเป็นคนที่มองเห็นข้ามขอบฟ้า มองเห็นอนาคตว่าสิ่งที่ทำจะส่งผลต่อโลกอย่างไร เขาเลือกจ้างคนที่เก่งที่สุดในแต่ละวงการ คนที่สามารถทำวิสัยทัศน์ของเขาให้กลายเป็นจริงได้ เขามีวิธีการชักชวนคนให้เข้าร่วมทำงานกับเขาอย่างเรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง เขามีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและมีพลังจนไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ ในการขายหุ้นมีหนังสือลับที่พยากรณ์ความสำคัญของ pc ไว้ได้ถูกต้อง จ๊อบเห็นว่าบ้านที่มี pc นั้นจะได้เปรียบบ้านที่ไม่มีอยู่มาก วิสัยทัศน์เช่นนี้จึงทำให้แคมเบลล์สนใจที่จะทำงานกับจ๊อบ แอปเปิ้ลมีวิสัยทัศน์ที่เรียบง่ายและชัดเจนคือการนำคอมพิวเตอร์ไปสู่มือของคนทั่วไป ซึ่งต่างจากพันธกิจที่บอกให้รู้ว่าเราทำอะไร วิสัยทัศน์คือวิธีทำให้โลกดียิ่งขึ้น ในแอปเปิ้ล การจ้างคนที่เก่งที่สุดมาท้าทายกันเองในบริษัทเพื่อสร้างผลงานที่ดีที่สุด ลีนเดอร์…

บทที่ 3 คิดอย่างแตกต่างในหน้าที่การงานของคุณ(สรุปโดยพี่ปิง COMSWU#21)

บิล สตริกแลนด์ ผู้เขียนหนังสือและผู้นำชุมชนเป็นหนึงในตัวอย่างการเลือกทำในสิ่งที่รักได้เป็นอย่างดี ตอนเด็กเขาอาศัยอยู่ในชุมชนแออัดยากจน เขาแทบไม่ไม่เข้าเรียนหนังสือเลย จนกระทั่งเขาได้พบกับแฟรง รอส ครูวิชาเครื่องปั้นดินเผา เขาพบว่าเครื่องปั้นดินเผาเป็นสิ่งที่สวยงาม และเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ทำให้เขาได้คิดว่ายังมีสิ่งที่เขายังไม่รูจักอีกมากมาย ช่วยให้เติมไฟในความฝันของเขา หลังจากเรียนจบเขาได้เรียนเป็นนักบิน และเข้าทำงานจนกระทั่งบริษัทล้มละลาย เขาสามารถเลือกที่จะเป็นนักบินต่อไปได้ แต่นั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ เขาต้องการเปลี่ยนแปลงโลก เขาออกมาสร้างโครงการสอนศิลปะให้เด็กๆ และศูนย์ฝึกอาชีพให้กับผู้ใหญ่ เขามีความคิดคล้ายกับสตีฟ จ๊อบคือเลือกทำในสิ่งที่รัก เพราะเขาเชื่อว่าความมีใจรักเป็นเชื่อเพลิงที่ใช้ขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ในก้าวต่อไป แม้จะถูกท้าทายจากสิ่งต่าง หรือการถูกปฏิเสธจากผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งญาติพี่น้องของคุณเองด้วย มันทำให้คุณก้าวเดินได้แม้จะมองไม่เห็นจุดหมายเลยก็ตาม ความมีใจรักไม่สามารถช่วยคุณจากความตกต่ำได้ แต่มันช่วยให้คุณอยู่ได้แม้ว่าตกต่ำซักเพียงไหน เจมส์ไดสัน นักประดิษฐ์เครื่องดูดฝุ่น เพราะเขาไม่พอใจที่เครื่องดูดฝุ่นแบเดิมนั้น ไม่สามารถดูดฝุ่นได้สะอาด เขาล้มเหลวหลายครั้ง อยากจะเลิกทำทุกๆ วัน แต่เพราความรักความสนุกในการประดิษฐ์ ความอดทนอันมหาศาลการประดิษฐ์ครั้งที่ 5127 เขาก็สามารถสร้างเครื่องดูดฝุ่นที่ปฏิวัตวงการได้สำเร็จ ไดสันมีความเชื่อว่าในการรับพนักงานใหม่…

บทที่ 2 ทำตามเสียงหัวใจเรียกร้อง(สรุปโดยพี่ปิง COMSWU#21)

จ๊อบเลือกที่จะลาออกจากมหาวิทยาลัยรีด เพราะไม่เห็นความจำเป็น ไม่ใช่สิ่งที่เขารักที่จะทำ ตอนนี้เขาไม่จำเป็นที่จะต้องเรียนวิชาที่ไม่สนใจอีก แล้วสามารถลงเรียนวิชาที่ตนเองต้องการได้ หลังจากที่เขาลาออก จ๊อบใช้ชีวิตอย่างฮิปปี้ เก็บขวดโค้กไปขาย แต่เขาก็รักช่วงชีวิตตอนนี้มาก เพราะเขาได้ทำตามความอยากรู้อยากเห็นของตนเอง ซึ่งทำให้เขาได้เลือกเรียนวิชาคัดลายมือที่มหาวิทยาลัยรีดมีโปสเตอร์ที่ติดที่มหาวิทยาลัยมีตัวอักษรสวยงาม ทั้งนี้เพราะรีดเป็นมหาวิทยาลัยศิลปะที่ขึ้นชื่อเรื่องศิลปะคัดลายมือเป็นอันดับหนึ่ง จ๊อบไม่คิดว่าสิ่งที่เขาเรียนจะช่วยอะไรได้ จนกระทั่งสิบปีให้หลัง ขณะที่ออกแบบแมคอินทอช เขาเลือกที่จะใส่มันลงไปทำให้มันกลายเป็นคอมพิวเตอร์ที่มีตัวอักษรลวดลาย รอน บารอนเป็นตัวอย่างของความสำเร็จ เขาเป็นคนไม่ย่อท้อต่องานหนัก เขามีคติประจำตัวว่าลงทุนในตัวคนไม่ใช่ตัวอาคาร เขามีความเชื่อในการทำสิ่งที่รักเหมือนจ๊อบ มีพรสวรรค์ในการมองหาผู้บริหารและทีมงานที่มีใจรักจะทำให้วิสัยทัศน์เป็นจริงได้ สตีฟ โวซเนียก หุ้นส่วนที่ร่วมก่อตั้งแอปเปิ้ลมากับสตีฟจ๊อบ มีนิสัยคล้ายคลึงกัน จนทำให้กลายเป็นเพื่อนรัก เพื่อร่วมงาน เขาเคยกล่าวว่าเขารักในการพิมพ์ดีด เขาอาสาที่จะพิมพ์รายงานจนตีสี่ตีห้าโดยไม่คิดเงิน เพราะถ้าคุณรักในสิ่งที่ทำ คุณจะไม่ห่วงเรื่องเงินๆ ทองๆ เลย จ๊อบมีความเชื่อว่าเราไม่ควรลงหลักปักฐานกับงานงานเดียว ควรค้นหาสิ่งที่ตัวเองรักที่จะทำจริงๆ ก่อน เพราะการที่เราจะประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องอาศัยความอุตสาหะเป็นอย่างมาก หากสิ่งที่ทำไม่ใช่สิ่งที่รักจริงๆ…

บทที่ 1 สตีฟ จ๊อบจะทำอย่างไร(สรุปโดยพี่ปิง COMSWU#21)

Bigzero พอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์ เจ้าของรางวัลโนเบล กล่าวว่า ทศวรรษที่ผ่านมาไม่มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นเลย แต่จริงมีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นคือ การที่สตีฟ จ๊อบกลายเป็นบิ๊กฮีโร่ในการกอบกู้แอปเปิ้ลให้กลับคืนมาได้ สรุปใจความ สตีฟ จ๊อบเป็นบุคคลสำคัญใรวงการนวัตกรรม เข้ามีแนวคิดใหม่ๆ ที่ทำให้เกิดสิ่งประดิษฐ์ดีๆ เกิดขึ้นมากมาย เช่น ipod macbook เป็นต้น ชีวิตประจำวันของคุณจะเกี่ยวข้องกับจ๊อบโดยที่คุณไม่รู้ตัว เราจึงควรศึกษาหลักการของเขา เพื่อนำไปปรับใช้กับตัวเราเอง โดยหนังสือเล่มนี้จะนำหลักการของสตีฟ จ็อบมาอธิบาย มีทั้งหมด 7 หลักการ