[MICRO MBA] Session แรก รายงานทางการเงินสำหรับผู้บริหาร

วันนี้เป็นวันแรกที่ผมได้มาอบรมให้หลักสูตร Micro MBA ของทางจุฬาครับ การเดินจากบริษัทผมก็ดูงงนิดนึง ถ้าจากทางวงวียนใหญ่นั่งสาย 542 หรือ สาย 4 ได้ครับ (ถ้ามีสายอื่นๆ เดี๋ยวมาเพิ่มที่หลัง) มาถึงเสร็จ ผมก็หลงหาอาคารไชยยศสมบัติ 3 ไม่เจอ ทั้งๆที่มันอยู่ใกล้กับทางเข้าฝั่งจามจุรีสแควร์นะ เดินวนรอบคณะเลย กว่าจะเจอตึกที่เข้าไปอบรม 5555 ตัวหลักสูตร Micro MBA ที่ ผมเข้าใจก่อนเรียนนะ คือ การเข้ามาปรับทัศนคติ คำนี้ดูไม่ดีเลย มาปรับ Mindset ให้คนสายงานอื่นๆ มาเห็นภาพของธุรกิจนะครับ อย่างผมจบ Computer Science ก็รู้จักแต่ Logic 0,1 มาเปลี่ยนมุมจากที่ฟังปัญหาปุบ Code อยู่ในหัว มาเป็นวิธีการของธุรกิจบ้าง (เดี๋ยวตอนจบมาเขียนสรุปอีกทีนะ) มาเข้าหัวข้อแรกในการอบรมดีกว่า รายงานทางการเงินสำหรับผู้บริหาร ในส่วนนี้เราสวมหมวกเป็นผู้บริการ เจ้าของกิจการ หรือผู้ถือหุ้น สำหรับคนที่เล่นหุ้นครับ ซึ่งมันต่างกับมุมของผมที่เคยเรียนบัญชี 1, บัญชี 2 มา ที่มันเป็นแบบ Bottom up ที่ต้องเริ่มจาก Transaction หรือ ธุรกรรมที่เกิดขึ้น นำมาลงหัวบัญชี(General Ledger – GL) ลง Debit/Credit มีวิธีการลงอีกว่าลงเกณฑ์คงค้าง หรือ เกณฑ์เงินสด แยกหมวดการลง ว่าเป็น สินทรัพย์ หนี้ ทุน กำไร ค่าใช้จ่าย การลง GL มีลงสมุดรายวันทั่วไป สมุดรายเฉพาะ จากข้อที่แล้ว เข้าใจว่ามีระบบ Support หมดแล้วนะ นำข้อมูลที่ได้มาออก Report ต่างๆ โดย Report ออกมาตัวหลักๆที่ทางบัญชีใช้ งบแสดงฐานะการเงิน หรือ งบดุล (Statement of Financial Position) งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ หรือ งบกำไรขาดทุน (Statement…

ที่มาของ shit

พอดีมีความแชร์มาใน Line และเห็นว่า ถ้าลองอ่านดีๆแล้ว มันแสดงแง่คิดในการทำงานเยอะมากครับ ลองอ่านกันดูครับ In the beginning was the plan. กาลครั้งหนึ่งเมื่อเริ่มต้นมีการวางแผน And then came the assumptions. และมีการตั้งสมมติฐาน And the assumptions were without form. และสมมติฐานนั้นไม่มีรูปแบบ And the plan was without substance. และแผนงานก็ไม่มีสาระสำคัญ And darkness was upon the face of the workers. และความมืดดำก็ตกแก่บรรดาคนทำงานทั้งหลาย And they spoke among themselves saying, และต่างคนต่างกล่าวขวัญกันในหมู่ตนว่า “It is a crock of shit and it stinketh.” นี่มันมีกองขี้ที่ไร้สาระและน่าสะอิดสะเอียนจริงๆ And the workers went unto their supervisors and said, และเหล่าคนงานเลยไปหาหัวหน้าและกล่าวว่า “It is a pale of dung and none may abide the odor thereof.” มันมีกองขี้และไม่มีใครทนกลิ่นมันได้ And the supervisor went unto their managers and said, และหัวหน้านั้นก็ไปหาผู้จัดการของเขาและกล่าวว่า “It is a container of excrement…

[Nunit] เริ่มต้น Test กับ Tools ตัวใหม่

.NET Core

ช่วงหยุดยาว 4 วันตามธนาคาร 16-17-18-19 เดือนกรกฏาคม ปี 59 ผมก็ไม่ได้ไปไหนหรอก อยู่บ้าน เผางานเหมือนเดิมครับ แม้ว่า Blog ตอนก่อนหน้าจะบอกว่า Project จบแล้ว แต่งานยังเหลือครับ หรือที่เรียกว่า End-Phrase (จำเค้ามานะ เดี๋ยวปีหน้าถ้าได้ต่อ โท จะมา Update ใหม่) โดยวันนี้ผมใช้ Test Tools ตัวใหม่ ปกติผมใช้ตัว JUnit ถ้าเป็นฝั่ง Java แต่ถ้าเป็นฟาก .Net ใช้ตัว Test ที่ Build-in มาให้ของ Visual Studio ครับ แต่ของ .Net มันเอาไปใช้กับคุณลุง Jenkins ไม่ได้ครับ ผมเลยย้ายคล้ายมาใช้งาน Nunit ครับ ในบทความนี้ เป็นการเตรียมตัว Tools ต่างๆ เพื่อทำ Nunit บน Visual Studio ครับ ผมอาจจะให้ลงเยอะนิดนึงนะครับ ฮ่าๆ เพราะ อันที่จริงเราสามารถดึงจาก Nuget ทั้งหมดได้ครับ แต่ผมให้ลงหมด เพราะ เผื่อเราเอาไป Integrate กับ Continuous Integration Tools อย่าง Jenkins เวลาเชื่อมกับ Nunit มันต้องใช้ Command Line ครับ

กลับเข้าสู่หน้าห้องอีกครั้ง

ตอนนี้ผมก็ทำงานมา 3 ปีและ แต่ส่วนใหญ่จะขลุกอยู่กับ Code และ Test เป็นหลัก แต่ใน Project Treasury เนี่ย ผมได้มีโอกาสหลายๆอย่างในเวลาเกือบ 2 ปี จากงกๆจิ้มอยู่กับคอม ได้ออกมาคุยกับ User มาขึ้น และเป็นโอกาศอีกครั้งที่ได้เป็น Trainer มาสอน User เกี่ยวกับระบบงานที่ไดพัฒนากันครับ โดยผมได้ดูแล และจัดการใน 3 หมวด ได้แก่ อบรมสถาปัตยกรรมระบบ อบรมการติดตั้งและดูแลระบบ อบรมการใช้งาน Excel Pivot พอได้มาทำงานส่วนนี้แล้ว ไฟลุกครับ มันย้อนไปสมัยตอนเรียน มศว ที่ได้มาเทรน เพื่อนๆก่อนสอบที่หน้าห้องครับ หลังจากมอดไปหมดจากความโหดร้ายของ Senior Project (ผมไม่ขออธิบายและกัน เดี๋ยวดราม่ายิ่งกว่ากระทู้ Pantip ครับ) มาเข้าเรื่องดีกว่า การอบรมใน 3 หมวดที่ผมดูแล มันมีุมมองที่แตกต่างกันไป โดยมี User สาย IT ของธนาคาร อบรมสถาปัตยกรรมระบบ อบรมการติดตั้งและดูแลระบบ และ User ที่เป็นสายการเงิน การบัญชี อบรมการใช้งาน Excel Pivot การสรุปเรื่องที่นำมาสอน User ได้นะ สิ่งที่เราต้องรู้ คือ ผู้เข้าอบรมเคยรู้อะไรมาบ้าง – กล่าวผ่านๆ ไม่ต้องเสียเวลาเยอะ ผู้เข้าอบรมไม่รู้อะไร – เน้นย้ำ ลำดับความสำคัญ เพราะต้องใช้งานจริง เช่น ดูแลระบบ การประยุกต์จัดทำรายงาน เป็นต้น เก็งคำถามที่เป็นไปได้ว่าผู้เข้าอบรมจะถาม – เตรียมตัวดีมีชัยไปกว่าครึ่งครับ หน่วยงานของผู้เข้าอบรม – รู้เพิ่มปรับสไตล์ เนื้อหาให้ทัน เท่าที่เจอผู้เข้าอบรม มีจากหลายหน่วยงาน สิ่งที่เราต้องทำ คือ สนใจผู้เข้าอบรมที่ทำงานในเรื่องนั้นๆ ครับ เช่น บางคนอยู่หน่วยติดตั้งชอบทำลัด -…

[ATH2016] สรุปงาน Agile Thailand 2016

วันนี้งานฟรีอีกแล้วครับ งาน Agile Thailand 2016 ที่ CP Tower (GoSoft) ชั้นที่ 11 ครับ โดยสำหรับคนที่มางานครั้งแรก Theme งานเป็น Open Space ครับ คือ มีสถานที่ให้ใครอยากแชร์อะไร มาแปะที่ Board ครับ แล้วมา Discuss ครับ ส่วนตัวอยากให้มีคน Update ลง Google Spreadsheet ด้วย เพราะบางทีมันเปลี่ยนห้องกัน และลายมือบางคนแอบอ่านยากครับ แต่ก็สงสัยนะว่าวันจัดงานของปี 2015 กับ 2016 จัดวันที่ 9 เหมือนกัน งานปีนี้วันที่ 9 กรกฎาคม 2559 ครับ มันมีเคล็ด หรือป่าว การลงทะเบียนทางทีมงานจัดการดีมากครับ ต่างจาก Google I/O Extend Bangkok 2016 ครับ ลงทะเบียนง่าย รับของ Happy ครับ พอมาถึงขนมพร้อมครับ ช่วงแรกของงานเป็นการแนะนำงานก่อน และให้ Speaker แต่ละคนมาขายของครับ ดูดคนฟัง เนื่องจากปีนี้ Slot มันเยอะมากกว่าปีที่แล้ว พอสมควรครับ ผมเลยเลือกหัวข้อที่ผมสนใจ และเข้าฟัง ตามนี้ครับ (ถ้าว่างๆ มาเขียน Blog ต่อครับ) CMMI – Water Fall – Agile – Scrum Agile Transformation Good Transformation Coach Installing & Self-Management BDD with Cucumber มันไม่ง่าย แต่เริ่มได้ Panel Disscussion – สรุปรวมในงาน ให้…

[ATH2016] BDD with Cucumber มันไม่ง่าย แต่เริ่มได้

หัวข้อ BDD with Cucumber เป็นอีกเรื่องที่แตกมาจาก Blog หลักครับ สรุปงาน Agile Thailand 2016  โดยเรื่องนี้ Speaker คือ คุณ Tanjai ครับ สำหรับตอนนี้ DD เยอะแยะเลย มีทั้ง TDD, ATDD และ BDD เป็นต้นครับ โดยของพวกนี้มีมาเพิ่มตรวจสอบความถูกต้องครับ เจ้า ตัว BDD หรือ Behavior Driven Development มาตรวจสอบความถูกต้องระหว่าง Business Test, Technical Test และ Test Case ตรงกัน หรือไม่? เพิ่มการทำงานร่วมกันของคน 3 กลุ่ม คือ Business Analyst, System Analyst, Programmer และ Quality Assurance ครับ โดยก่อนเริ่มทำ BDD เราต้อง Explore – หาสิ่งที่ทำ คือ อะไร / Feature ที่ทำอยู่ Discover – ทำงานอย่างไร มี Scenario อย่างไร Define – กำหนด Acceptance Criteria คือ อะไร Drive – ทำให้ BDD มันก่อกำเนิดขึ้นมาครับ มาเริ่มกันเลย โดยการถามว่า Feature สร้างมาเพิ่มอะไร ทำอย่างไร มี Scenario อย่างไร เพื่อให้ได้ Example ที่เป็น Concrete Example เช่น Facebook มีระบบ Search แต่การ Search มี Scenario…

[ATH2016] Good Transformation Coach

สำหรับตอนนี้ Good Transformation Coach โดยคุณ อุรณเทพ (พี่กัน) ครับ Blog อันนี้แตกมาจาก สรุปงาน Agile Thailand 2016 ครับ เป็น Session พิเศษครับ ต่อจากหัวข้อ Agile Transformation เพราะห้องอื่นเต็มหมดครับ โดยการเป็น Coach หรือ Manager ที่ดี ต้องมีความสามารถเหล่านี้ แต่มันไม่สามารถอ่านจากหนังสือได้ ต้องสะสมประสบการณ์ เก็บเกี่ยวไปสักพักนึงครับ โดยมีทั้งหมด 10 ข้อ ดังนี้ They have an uncanny ability to “read a room.” สามารถอ่านบรรยากาศภายในองค์กรได้ บรรยากาศมาคุ ใครไม่ชอบใคร เป็นต้น They care about people more than products. สนใจที่คน ความสัมพันธ์ เพราะ คนสร้าง Productivity ครับ They cultivate curiosity.They know when they don’t know. การที่เป็น Coach หรือ Manager บุคคลภายนอกจะตีตราว่าเรารู้ทุกอย่าง ต้องยอมรับความจริงว่าบางเรื่อง เราไม่รู้ เพราะ โลกวันนี้ไปเร็วมาก ให้ถาม (Ask) , ขี้สงสัย อยากรู้(Curiosity) แต่ไม่ใช่ลองของ แต่ต้องดูด้วยว่าเรา Contact กับคนใน Gen ไหน ฺBaby Boomer, Gen X – ต้องพยายามทำเหมือนว่าเรารู้ ไม่งั้นอาจจะไม่ได้งาน เพราะ Baby Boomer, Gen X ผ่านความยากลำบากมาก่อน Gen Y…

[ATH2016] Installing & Self-Management

ฺBlog ตอนนี้ผมแตกมาจาก สรุปงาน Agile Thailand 2016 ครับ จะได้ไม่อ่านกันยาก บทความได้ไม่ยาวเกินไปและเฉพาะเรื่องด้วย เข้าเรื่องเลยดีกว่าครับ หัวข้อ Installing & Self-Management โดยคุณ Verokas ได้เสนอประเด็นที่ว่าปัจจุบันการทำงานในชีวิตจริง การจัดงานโครงการต่างๆ มันขึ้นอยู่กับ Project Manager คนเดียว ที่มีคนอำนาจสั่งการ จัดการ ตัดสินใจ บางครั้ง ปัญหาบางเรื่องมันคอขวดที่ PM คนเดียวครับ (Centralization) มาเป็นการกระจายอำนาจ การจัดการต่างๆ (Decentralization) ลงไปเป็นลำดับชั้นไปรากหญ้าครับ แล้วรากหญ้า คือ ใคร เป็น Manager, Senior Dev หรือป่าว ? ไม่ใช่ครับ พยายามกระจายให้ลงไปยังรากหญ้าจริงๆ คือ พวก  Junior ทั้งหลายครับ ไม่ว่าเป็น DEV, QA ฯลฯ แต่การกระจายงานลงไปได้ เราต้องทำการ Distributed management skills ครับ ฝึกก่อนครับ People vs Technical People – บริหารคน กระจายงาน Technical – ดูงานด้านเทคนิคแทน ไม่ว่าจะ IT หรือ Business People vs Technical เป็นงานที่ Manager อยู่ครับ หลายคนเห็นว่า Manager ทำงานดึก เดินไป เดินมา แต่ไม่รู้เนื้องานว่าทำอะไร เวลาที่หมดไป หมดไปกับการบริหาร การตามงาน Time Management จัดการเวลา จัดการง่ายๆ ลำดับความสำคัญครับ (Prioritization) Always more work than time – งานมันเยอะกว่าเวลา ดีแล้วครับ อย่างน้อย บริษัทยังมีงานทำ ไม่ได้เจ๊ง…

[ATH2016] Agile Transformation

สำหรับตอนนี้ Agile Transformation โดยคุณ อุรณเทพ (พี่กัน) ครับ Blog อันนี้แตกมาจาก สรุปงาน Agile Thailand 2016 ครับ การเปลี่ยนองค์การ หรือบริษัทให้มาใช้ Agile เราใช้ Agile ได้สิ่งที่เราต้องรู้ คือ ถ้านำ Agile มาใช้ เราต้องรู้จักคนก่อน โดยใช้เมตริกซ์ DISC มาดูที่แกนต่างๆกันก่อน ตอนบรรยายพี่กันให้ทุกคนคิดว่าตัวเองเป็นแบบไหน และเลือกฝั่งครับ แบ่งคนเป็นกลุ่ม 4 กลุ่ม ดังนี้ครับ Type Key Desription Remark D(Dominant) What Active-Questioning ตั้งคำถามเยอะ ตัดสินใจเร็ว (Get it Done.) I (Inspiring) Who Active-Accepting เข้าอก เข้าใจผู้อื่น ผู้นำกิจกรรม (Get Heard) S (Supportive) How Accepting-Thoughtful สาย support ช่วยช่วยเหลือแนะนำผู้อื่น (Get along go with the flow) ปรับเข้าทาง Agile ได้ง่ายสุด C (Cautious) Why Thoughtful-Questioning ทำไมถึงต้องทำ ต้องรู้ก่อนเหตุผลที่ทำ (Get it right) ปรับเข้าทาง Agile ได้ยาก Agile Disc Model เมตริกซ์ เป็นเพียงแค่ตัวคัดกรองเฉยๆครับ ไม่ใช่ว่าคนในกลุ่ม C (Cautious) -WHY? เอามาเข้า Agile ยากเสมอครับ มันซอยย่อยๆลงไป บางคนเค้าสงสัย เพราะ อาจจะคิดว่าทำไมถึงควรทำ ถ้าได้เหตุผลที่ดี เค้าสามารถปรับใช้เข้ากับ Agile ได้ครับ…

[ATH2016] CMMI – Waterfall – Agile – Scrum

Blog นี้ ผมแตกประเด็นมาจาก สรุปงาน Agile Thailand 2016 โดยในตอนนี้ ผมขอรวม Slot 2 อัน ในช่วงเช้า เข้าด้วยกันเลยครับ โดยมีของ SPI – CMMI vs Agile ของคุณ นิ้ง Agile & Scrum. How to get start ของคุณ ปลา ครับ ก่อนที่เราเข้าประเด็นกัน สิ่งที่เราต้องรู้กันก่อนคำศัพท์ แต่ละคำ คือ อะไร ครับ CMMI (Capability  Maturity  Model  Integration) – คือ มาตรฐานที่เอาไว้บอกถึงความเชื่่อมั่น และคุุณภาพของกระบวนกาพัฒนา Software ทำให้เป็นระบบ และยืดหยุ่นต่อการปรับเปลี่ยนได้ ตัว CMMI มี 5 Level (เอาคร่าวๆ ก่อนนะครับ จริง CMMI มันมีแผนผัง อารมณ์เดียวกับ Skill Tree ใน Game ครับ) Level 1 – มี Product ก็ผ่านแล้วครับ Level 2 – Repeatable การกำหนด Basic Project Management งานหลักๆ ที่ใช้ในการพัฒนา Software Level 3 – Defined การกำหนดรูปแบบของการทำงานเข้ามา และนำไปใช้กับทั้งองค์กร Level 4 – Managed มีการเก็บสถิติการทำงาน และ วัดผลการทำงาน Level 5 – Optimizing / Continuous Process Improvement นำข้อมูลที่ได้มีวิเคราะห์หาสาเหตุ และปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ดียิ่งขึ้น Process Area สำหรับ…