วันที่ต้องหยุดพัก เพราะร่างกายรับไม่ไหว น่าจะเป็นนิยามทีดีที่สุดสำหรับปีนี้ครับ เพราะเป็นปีที่ใช้ร่างกายเยอะมากครับ Blog นี้น่าจะบ่นเรื่องานเยอะหน่อย
เรื่องงาน
- จริงๆ แม้ว่าหลายคนระดับบนขององค์กรจะมองว่า Resource มันเพียงพอ ไม่ต้องโหมงาน แต่ผมว่างานหนักขึ้นตามหน้าที่ที่ได้รับครับ
- การจัดการโครงการ - ผมมองว่าล้มเหลวครับ
- Resource เดียวกัน ที่ต้องทำทีละ 1 Project กลายเป็นว่าต้องมาจับงาน 2-3 Project ทั้งทีจริงๆ มันมี โอกาศกันไม่ให้ Resource มันไม่ชนกันนะ
- Migrate VB6 เป็น .NET หลังจากเปลี่ยนคนทำมาหลายคนแล้ว และที่มีการประเมินไว่้ถึง 25-30 ปี ตอนนี้ ระบบสัก 20-30% ถูกยกขึ้นมาแล้วบน .NET ต้องดูต่อไปว่าสิ่งที่ผมวางไว้ มันจะก้าวไปได้ขนาดไหนครับต้องลุ้นแล้วว่าจะได้คนเข้ามาเพิ่มไหม เพราะถ้าไม่ได้ ผมว่าโครงการนี้คงล่ม เนื่องจากคนที่ทำหนีไปแล้ววว ฮ่าๆ
- การจัดการโครงการปีนี้น่าจะ 90% ของวันทีทำงาน น่าจะเป็นวันที่กลับคนสุดท้ายขององค์กรครับ น่าจะมาจากหลายปัจจัย
- ต้องมีสมาชิกที่ต้องดูแล แต่ติดตามมากขึ้น
- การวางแผนหลังการขาย ไม่รู้จะเรียกว่ายังไงนะ แต่ส่วนตัวคิดว่าตอนนี้นโยบายองค์กรเน้นหางานเข้ามากกว่า แต่การบำรุงรักษายังขาดไป อยากปิดโครงการ แต่ทำให้เกิดงานสัญญาใจ (End-Phase) ที่ทำฟรี ไม่เก็บเงิน แต่กรรมกรไอทีอย่างเราๆ ต้องดำเนินงานต่อไปให้เสร็จสิ้น แม้ว่าจะมีงานอื่นจ่อเข้ามารอแล้ว งานทำเงิน กับงานสัญญาใจ T__T
เรียน ป โท
- เป็นปีที่ยากลำบากมากครับ เพราะ งานบีบเข้ามาจนเวลาที่ให้กับการเรียนต้องลดลง
- สุดท้ายงานก็กระทบกับการเรียนจนได้ และผมมีปัญหาสุขภาพด้วย ทำให้ต้องเลือกงานก่อน และทำ Thesis ในวันอาทิตย์เพียงวันเดียว เสียค่าเทอมของเทอมนี้ไปฟรี โดยมีส่วนนึงจากการจัดการเวลาของโครงการที่ผิดพลาด
สุขภาพ
- จากงานที่หนัก แล้วสุขภาพก็แย่ลงครับ ..................
- อาการที่แสดงออกมี ดังนี้
- อ่อนเพลีย แขนขวาชา
- มือเจ็บ จนต้องเปลี่ยนมาใช้ Ergonomic Mouse แทนครับ
- น้ำหนักขึ้นมา 7 kg จากช่วงที่ผมที่สุดในปีนี้ครับ ลงพุง T__T
การเงิน
- มันก็ส่งมากจากงานที่หนักขึ้น แต่การเรียนไม่ค่อยคืบหน้าเท่าไหร่ครับ ทำให้เงินเสียเงินค่าเทอมไปเปล่าๆแทน ลงทุนเพื่อลูกค้านะ ถ้ามาอ่านหวังว่าจะใจดีกับ DEV ตัวน้อยๆอย่างเราบ้าง ขอให้อ่านสเปค อ่านเถอะ ผลประโยชน์ของคุณลูกค้าทั้งนั้น
- โชคดีอย่างนึงที่บังคับตัดเงินเข้าบัญชีออมกลุ่มต่างๆ ทำให้ยังพอเงิน เพื่อเอาไปใช้จ่ายหนักไปได้ เช่น ค่าเทอมครับ
- ค่า Taxi กลับบ้าน เนื่องจากมำงานดึกออกมาที 3 ทุ่มกว่า 4 ทุ่มครับ รถเมล์มีน้อยมากครับ Taxi เลยเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดครับ ค่าใช้จ่ายทั้งปี 39,519 บาทครับ พอเข้าใจเลยว่าทำไมผลายเลือกจะผ่อนรถ เพราะพอทำแบบนี้หลายปีเงินที่จ่ายไป พอๆกับการผ่านรถครับ (บริษัทไม่ได้ออกให้ด้วย T__T) หวังอย่างเดียวว่าการรับผิดชอบกับ Product กับ ลูกค้า ทำให้ได้โบนัสที่เยอะกว่าปีก่อนๆนะ
- การลงทุน - ปีนี้แย่ครับ ทุ่มกับงานมาไปจนลืมจัด Portfolio แม้ว่าตัวเองพัฒนา Module Rebalance EQ แต่ยุ่งจนลืม Rebalance Portfolio ของตัวเองซะงั้น
- เลิกการตอกสมุดบัญชี - ปกติทุกเดือนผมจะไปตอกสมุด เพื่อ Update การเข้าออกของเงินในบัญชีครับ แต่พอมีพวก Cashlesss ATM แล้ว มันทำให้ต้องลง App ของธนาคารครับ ทำให้พฤติกรรมเปลี่ยนไปเลย
Blog นี้ที่บ่นๆ ก็หวังว่า HR จะมาเห็น แล้วเพิ่มโบนัสชดเชยค่าเทอมเสียไปด้วย ฮ่าๆ เสียหายไปเยอะเลย เพื่อ Project Re-Design กับ Deadline ที่บีบ และงาน End-Phase ที่ปิดโครงการได้ แต่ภาระยังเหมือนเดิม
ปีนี้พยายามไม่ทำตัวเป็นคนดี แอบไม่ดีบ้าง ปัญหาบางอย่างเกิดจากคนอื่น แต่เราต้องมารับผิดชอบแทน เพราะรู้สึกว่าการยื้อเวลาการเรียน ป โท ไปแลกกับงาน ลูกค้า มันดูไม่ค่อย OK เท่าไหร่
Discover more from naiwaen@DebuggingSoft
Subscribe to get the latest posts sent to your email.