Introduction to UX

Blog อันนี้ผมแตกมาจาก สรุปงาน Google I/O Extended Bangkok 2016 ข้อมูลมันเยอะมากครับ อ่าเข้าเรื่องเลยดีว่า ทำไมเราต้องมาสนใจ UX หละ ดูภาพนี้ น่าจะมีคำตอบในตัวครับ

UserExp

จากภาพเราสร้าง Software มาเป็น Product ชิ้นนึงได้ นอกจากการ Requirement ที่ตรงตาม Business แล้ว ยังต้องสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ User ด้วยครับ ซึ่งสร้าง Product ที่ดีขึ้นมาได้ เราต้องมี MindSet ที่ดี มันเริ่มจากปรับจูน

  • สิ่งที่เราให้
  • สิ่งที่ลูกค้าต้องการ

แต่ส่วนมา 2 ข้อนี้มักเป็น Infinite Loop ครับ
แต่ Deadline เท่าเดิม T____T

UX Designer ที่ดีต้องรู้ว่า สิ่งที่ทำเราแก้ปัญหาอะไร จะได้ฉีดยาให้ตรงจุด เป็นตัวแทนของ User (Empathize-เข้าอกเข้าใจ User) แต่ไม่ใช่ User มาต่อที่ 3 คำนี้ดีกว่า

  • UX - User Experience
  • UI - User Interface
  • IxD - Interaction Design

User Experience หรือ UX ตัว UX Designer ทุกอย่างที่ส่งผลกระทบต่อประสบการณ์ของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจาก Business, Design หรือ จาก Code ของเราเอง มันจึงมีตำแหน่งนี้ เพื่อเอามาทำ Research เก็บข้อมูลต่างๆ ทำ Usability Test ก่อนลงมีอ Coding หรือ ทำ A/B Testing

โดยให้ตอบโจทย์ที่ดีที่สุดในขณะนั้น เพราะวันเวลาเปลี่ยนไป Trend เปลี่ยนไป หลายคนอาจจะงงว่า Business , Design หรือ Code เกี่ยวอะไรกับ User Experience ?

  • Business - Flow การทำงานจริงของระบบงานเดิม เปลี่ยนมาใช้ Product ที่ทำให้แล้วเนี่ย User งงกว่าเดิม ไปไม่ถูกงงกับ Flow ไปเลยหรือป่าว

Netflix - เดิมก็เป็น Startup เล็กๆ แต่ล้มยักษ์อย่าง Blockbuster ได้ เพราะ เปลี่ยนวิธีการเช่า VDO ของเดิมต้องเดินไปคืนเอง ของใหม่ อยากดูเรื่องใหม่ ก็ต้องคืนของเดิมทางไปรณีย์ แล้วพอถึงเวลา Technology พัฒนาจนถึงจุดนึ่ง Netflix เลยขยับมาทาง Online ครับ

  • Design - กลับไปดูที่ภาพแรกครับ
  • Code - Performance ครับ ถ้าในมุมของ System Analyst คือ ตัว Non-Functional Requirement ครับ ตัวอย่างผมของยกที่ Blog ตอนนี้ หรือเป็นการปรับ Algorithm การทำงานครับ

กฏ 80:20 ของพาเรโต - User ส่วนใหญ่ 80 % ใช้ Feature ของ Product แต่ 20% ส่วน User อีก 20% นีพวกอัจฉริยะครับ ให้งาน Feature อีก 80% ที่เหลือ

2016-06-26_100415

สำหรับตัวอย่างที่ผมจะยกใน 80:20 นี้ คงเป็นพวก IDE เอา Microsoft Visual Studio และกัน เมนูอะไรเยอะมาก แต่ใช้จริงนิดเดียว ทำ WinApp ทำ Web ส่วน Feature อื่นๆ ขยะใน Temp เกือบ 22 GB O.o แถมมี Process มาหน่วงเครื่องอีก... แต่ภายหลัง Microsoft Visual Studio 2015 ก็เลือกลงตามที่อยากได้แล้วนะ

วิธีทำความเข้าใจปัญหา และหาวิธีแก้ของ UX Designer

  • User Center Design
    guide
  • Design Thinking
  • Design Sprint/Lean UX/6 Sprint/ (Agile way เลย)
    UX-Agile
  • MVP - ถ้าในแก้ Coding ผมนึกได้อย่างเดียวครับ Model View Presenter เป็น Design Pattern แบบหนึ่ง แต่ในที่นี้ คือ Minimum Viable Product คือ ความพอเพียง ทำ Product เพียงพอกับความต้องการจริงก่อน [a set of minimum features]
    - Minimum - เน้น Feature ที่เป็นหัวใจของ Product ก่อน (ตาม Priority)
    - Viable - ดึงดู User สร้างมูลค่าเพิ่ม ใช้งานจริงได้
    - Product - สิ่งที่เราทำอยู่
UX-MVP

แต่... ถ้าเพิ่ม Feature เยอะ ปัญหาก็เยอะตามครับ

The Cost of Feature
The Cost of Feature

การออกแบบบรรจุภัณฑ์ การใช้สี เอาของตัว Netflix ดีกว่า โดดเด่นครับ

netflix
ภาพจาก https://squadblogdotcom.files.wordpress.com/2011/07/netflix.jpg

บางการปรับ UX ให้ยากขึ้น ซับซ้อนขึ้น เพื่อแลกกับเวลาที่ใช้งานลดลง ทุกอย่างมีข้อแลกเปลี่ยน (Trade off)

เมื่อ UX Designer เก็บข้อมูล ทำ Research ออกมาได้ข้อสรุปเรียบร้อยแล้ว งานถูกส่งต่อให้กับ User Interface Designer หรือ UI Designer ให้ทำการออกแบบต่อไปครับ ไม่ว่าเป็นการทำ Graphic หรือลง Coding ใส่ฝั่งทาง Front-end ครับ

จะว่าไป UX Designer มันภาพรวมของงานมันเหมือน กลุ่ม IT Analyst เลยนะ ต้องมีการเก็บ Requirement >> Analyst >> Design >> Develop ด้วยนะ UX Designer มันอารมณ์แนวกๆ User Analyst กับ Process Analyst เลยนะเนี่ย


Discover more from naiwaen@DebuggingSoft

Subscribe to get the latest posts sent to your email.