Why Second Brain
ที่มาคุณ Tiago Forte ป่วย หายหมอมาหลายที่แล้วไม่หาย เค้าเลยขอเอกสารที่เป็น Analog > Digital แล้วมาหาความเชื่อมโยง จนไปหาผู้รู้แล้วเจอว่ามันเป็นเปลี่ยนการกับการจัดการสีระ จากนั้นอาการดีขึ้น เลยเป็นที่มาของการเขียนหนังสือ Building a Second Brain ในไทยก็มีน้า โดยสำหรับหนังสือเล่มนี้จะกล่าวถึง 3 ส่วนนะ
- The Foundation
- The (CODE) Method
- The Shift
The Foundation
เริ่มจากปัญหาที่แอดทอยเล่า สมองของเราเอาไว้คิด สร้าง Idea แต่มันไม่ได้เก่งการจัดเก็บข้อมูล (David Allen) ซึ่งการทำงานจริงเราพบว่า 1/4 ของวันจะวุ่นๆกับการหาข้อมูล และเกือบครึ่งสิ่งที่เราต้องการมันหาย หรือ หาไม่เจอ วิธีการมาช่วยมีหลายแบบ ผมได้หลาย keyword
- Getting Things Done (David Allen) เป็นแนวคิดมาช่วยจัดการงานของระเบียบ
- Second Brain = สมองที่สอง เอาไว้จด Idea อะไรที่ทำให้ เพื่อสร้าง Value ให้เราในอนาคต เมื่อก่อน มีนะจะเรียกว่าตัว Commonplace Book สมุดเล็กจด แต่มันเป็น Physical เลยจะมีปัญหาว่ามันหายยาก เอามาเชื่อมโยงได้ยาก การอ่านด้วย เพราะเป็นลายมือ ปัจจุบันขยับมาเป็น Digital แทน
Second Brain - Production System เกิด Idea และการเชื่อมโยงใหม่ๆ
- เริ่มต้นจากการจด + เขียน + ขมวด
- Interpreted through your lens - มุมมองของเรา
- Curated according to your taste - ความรู้สึกที่ได้พบปะ
- Drawn from your life experience - ประสบการณ์ที่ไดรับ //ถ้าใครดู live ผมจะสลับนะ
- Translated into your own words - สรุปด้วยภาษาของตัวเอง
- Stored in a secure place - จัดเก็บให้ค้นหาได้ง่าย และปลอดภัย
ยิ่งเราจดเยอะเราจะมีมุมมองที่หลากหลาย เพราะยิ่งนานไป เราจะลืม ใครสนใจลองอ่านหัวข้อจาก NCD#2023 ได้นะ As a "Developer' indeed we are the student of the world. และการเขียน ฝากความรู้เหมือนดอกเบี้ย มันจะโตขึ้นทุกวัน และเราสามารถเชื่อมโยง ให้เกิดสิ่งใหม่ได้ด้วย พลังเป็ดโปร
กระบวนการ recall เหมือนทวนจดที่เราจำได้ โดยแอดทอย ฟังรอบแรกจบ จะจดเลย และมาดูเพิ่ม + Review ในส่วนที่สงสัย
- Personal Knowledge Management (PKM)
มีขั้นตอนง่ายๆ เริ่มต้นจาก Remember (จำ ไม่ว่าจะจด บันทึก อัด) > Connecting (ดึง และเชื่อมโยง) > Creating (ขมวดสรุปออกมา)
The (CODE) Method
CODE Method เป็นแนวคิดที่มีมานานแล้ว คุณ Tiago Forte นำมาปรับใช้กับแนวคิด Second Brain โดยผมขออธิบายในแต่ละตัวที่จดมาได้ ดังนี้นะ
📸 Capture
เลือกข้อมูลคุณค่ากับตัวเรา
แล้วอะไรที่มีคุณค่ากับเรา อันนี้แอดทอยแนะนำตัว Twelve Favorite Problems ของคุณ Richard Feynman โดยให้เราตั้งคำถามก่อนจะ Capture ว่า
- Does it inspire me? -สร้างแรงบันดาลใจให้เรา ?
- Is it useful? - ประโยชน์ไหม กับงาน หรือชีวิตประจำวัน ?
- Is it personal? - มันเป็นเรื่องส่วนตัวไหม?
- Is it surprising? - ทำให้เราว้าว และน่าสนใจ
ของที่เรา Collect Capture ได้มีเต็มไปหมดเลย ไม่ได้ Fixed รูปแบบ ว่าต้องเขียน จดนะ ที่แอดยกตัวอย่าง Taylor Swift จด Idea ด้วย Melody นะ
ชีวิตการตั้งคำถาม ส่วนการใช้ชีวิตคำตอบ ถ้าคำถามเราถูกทาง action จะถูก
In any piece of content, The value is not evenly distributed ดังนั้นเราเก็บ และเชื่อมโยง สร้าง Value ให้มันขึ้นมาได้
🗂️ Organize
จัดข้อมูลตามความสำคัญของการเรียงใช้ โดย Tiago Forte แนะนำ Technique PARA ยาพาราเหรอ 55 มาใช้กัน
PARA ก็เหมือนการตั้งเป้าหมาย มีทั้งระยะสั้น ระยะยาว โดยมีการจัดกลุ่ม ดังนี้
- Project งานที่มี Deadline ชัดเจน หรือ เป็น Short Term
- Area - Long Term ทำได้เรื่อยๆ ไม่มี Deadline
- Resource - สิ่งที่เราสนใจ อาจจะมีประโยชน์ในอนาคต โดยใน Second Brain เป็นส่วนที่เราจะเอามาแชร์ฺให้คนอื่นได้
- Archive - อะไรที่ไม่ใช้ ทำเสร็จ แล้วจาก Project, Area, Resource ก็ย้ายลงมาในนี้
ทำแล้วอย่าลืม Revise ด้วยนะ ผมชอบแนวคิด information in kitchen Move Quickly > Touch Lightly ทุกอย่างมันเปลี่ยนกลุ่มได้หมดนะ
🗒️Distill
สรุปเขียนออกมาให้อยู่ในรูปแบบของตัวเอง อันนี้เทคนิค Highlight 2.0 มาช่วย
Highlight 2.0 เป็นเทคนิคที่มาช่วยการดึงสรุปออกมาได้ง่าย และชัดเจน นึกถึงภาพการหา main idea ตอนเรียนภาษาเลย โดยมีขั้นตอน ดังนี้
- capture notes สิ่งที่มีคุณค่า
- ตัวหนา (Bold) ข้อความที่สำคัญ
- Highlight keyword เพื่อนเน้
- สรุปออกมาเป็นภาษาตัวเราเอง
📺Express
แสดงผลงานของเราออกมาให้คนอื่นเห็น
- ลงมือทำ Content แล้ว ไม่ต้องยาว ทำเล็กๆ แล้วแชร์เลย ไม่ต้องรอให้มันเสร็จสมบูรณ์นะ
- ค่อยๆเพิ่มที่ละรอบ เหมือน Sprint ใน Agile (Small Incremental)
- แนวคิด Intermediate Package ต่อเริ่ม Share จาก Idea > และขยายไปเรื่อย Refine ให้สมบูรณ์ขึ้นไปครับ
- Think Small เริ่มจาดกจุดเล็ก จะได้มีกำลังใจ
- นอกจากนี้เราสามารถ Combine หลาย idea มาสร้างสิ่งใหม่ได้น้า
- rule of 33% มองเราเองเหมือนนำและยืดหยุ่นได้
Intermediate Package
- หลังจากที่เราได้ข้อแต่ละขึ้นมาแล้ว ต้องมาลอง Reuse / Tag / Browse คนอื่นมาหาเจอ / serendipity - Chance การที่เราได้โอกาสใหม่เข้ามา
นอกจากนี้เรา เรายังเอาความรู้เล็กๆ มา Connect the dot เพื่อให้เห็นภาพที่ใหญ่ขึ้น เข้าใจมากขึ้น
The Shift
อันนี้มาจากที่ผมเคยอ่านนะ มันการ Continuous Improvement เช่น การจัดการ PARA Folder / Twelve Favorite Problems หรือ Update Goal ของเราเป็นระยะ เลือกสิ่งที่ดีกับตัวเรา และทำให้ตัวเราดีขึ้นในทุกๆวัน
Notion
Software ที่ช่วยให้เราทำ Second Brain ได้ง่ายและสะดวก มันอารมณ์เหมือน MS Word เปิด จดได้เลย และมี Feature เจ๋งๆ อย่างแบบทำ web คล้าย WordPress แบบที่ผมเขียน Blog นี้ก็ทำได้นะ ที่ผมชอบๆใช้
- heading 1-3 เอาไว้แยกลำดับของหัวข้อ
- table of content สารบัญ เอามาจาก heading
- code เอาไว้แสดงผมพวก source code
- highlight / callout เอาไว้เน้นส่วนที่สำคัญ
- Database เอาไว้จัดการต่างๆ มันได้หลายอัน แบบผมเอามาตามงานน้อง
- อีกตัวที่ชอบ notion web clipper เอา web มาเก็บใน notion แล้วมา recap อีกที
Notion น้องๆ ms365 / google workspace กำลังต่อจิํ๊กซอให้เป็น Eco ที่สมบูรณ์
ถ้าใช้งานลองเลย https://www.notion.so/
- คู่มือเขียนดีใช้งานง่าย และมีหลายช่องสอนใช้ด้วยครับ
- ของ Offcial ก็อ่านง่ายนะ https://www.notion.com/help/keyboard-shortcuts
- แต่อาจจะปรับ keyboard อย่าง windows เปลียนภาษาจาก ~ มาเป็นปุ่มอื่น เช่น alt+shift ใน Blog ผมมีเขียนนะตามกันได้
นอกจาก Notion / MS Loop / Evernote หรือ ตัวอื่นๆก็ได้ครับ อย่างผมใช้ WordPress เป็นตัวหลัก Notion ไว้ Capture เบื้องต้น อะไรที่ Private
ผมชอบภาพนี้นะ ช่วยให้เรา Shift จาก Consumer เป็น Creater แค่เราได้เขียน มีคนเข้ามาอ่าน ที่ไหนก็ได้ แต่ทำเป็นประจำนะ
Discover more from naiwaen@DebuggingSoft
Subscribe to get the latest posts sent to your email.
