วันนี้มาฟัง Online ระหว่าง Clear งานไปก่อนทำธุระช่วงเย็นก่อน น่าจะครบนะ หัวข้อที่ฟังมี ดังนี้ เยอะมาก มาครบทุกค่ายของ Cloud ในไทย 555 >> AWS / GCP / Azure / Alibaba / Huawei / Proen (เพิ่งรู้ว่าทำ Cloud จดไว้ใน List และ) โดยหัวข้อที่จดมามีดังนี้ครับ
- LET'S BUILD A DEVELOPER PORTAL WITH BACKSTAGE
- MODERN APPLICATION PATTERNS AND HOW TO BUILD THEM ON AWS
- EVERYTHING EASY DEPLOY, SCALE AND MANAGE IN DOMETIC CLOUD
- SECURE SOFTWARE SUPPLY CHAIN FOR K8S APPLICATIONS
- HYBRILD CLOUD SECURITY CHALLENGES
- TISCO BANTAO: FROM CRISIS TO OPPORTUNITIES WOTH LOW CODE&CLOUDS
- CENTRALIZED LOGGING STACK ON K8S PLATFORM
- EXTRAME K8S HA ACROSS CLUSTER / REGION WITH CLUSTER MESH
- CREATE HIGHLY SECURE AND RESILIENT CLOUD-NATIVE APPS WITH MS AZURE
- DOUBLE 11 BEHIND THE SCENES
- EVERYONE CAN BE A DEVELOPER WOTH HUAWEI CLOUD APPCUBE
- ADD AI TO YOUR APP WITH AZURE CUSTOM VISION SERVICE
LET'S BUILD A DEVELOPER PORTAL WITH BACKSTAGE
- Platform Engineering
- Practice + Standard ของการสร้าง Software โดยที่ตัวนี้มันจะเป็น Self-Service ที่ช่วยให้ Dev เข้ามา Build / Operate เรียกว่า Infra 4 Development ได้มั้ง ทำตัว Internal Developer Platform (IDP)
- ตัว DevOps / DevSecOps ถูก Include มาในนี้แล้ว
- ปีนี้อยู่ใน Gartner Trend 2022
- Backstage คือ อะไร ?
- Framework ทำ IDP สำหรับ DEV (Require Dev Skill - React / Yarn / TypeScript / Git Docker / PostgreSQL เป็นต้น)
- พัฒนาจากทีม Spotify ที่อยู่ในระดับ Incubation (มีหลายคนเข้ามา Contribute) ไม่ใช่เป็น Sandbox
- รวม Practice + Standard มาให้ DEV ใชัสะดวก สร้าง Template จัดการ Practice + Standard
- ทุกอย่างใน Backstage เป็น Plugin โดยมีหลายส่วน ได้แก่
- Software Catalog - Portal ของ System ที่สนใจ
- Asset Inventory ของ Software ในรูปแบบ YAML โดยแบ่ง Type ตาม Kind (Level + Drill Down) เช่น Domain / Component เป็นต้น
- ถ้าจะดูความสัมพันธ์ ใช้ Catalog Graph บอกว่า Component ที่สนใจ สัมพันธ์กับ Domain อะไร รวมถึงมี API อะไรเปิดไว้เป็นต้น
- ตัวอย่าง Catalog: backstage/catalog-info.yaml
- Activity ของ Dev + Test
- หรือ Integrate กับ Tools อื่นๆ ได้ เช่น Lighthouse / Sentry / K8S เป็นต้น
- Software Template
- ทำ Template บน YAML บอก Task ทำอะไร โดยจะเป็น Kind Template ใน Software Catalog
- Ref: Adding your own Templates · Backstage Software Catalog and Developer Platform
- Software Techdocs
- ใช้ Markdown เขียน Doc จากใน Template ให้วางอยู่ใน Folder docs ของ Code
- ที่เหลือเติมรายละเอียดจากใน Git
- Software Catalog - Portal ของ System ที่สนใจ
- อนาคตของ Backstage: VMware Tanzu - เอาไปใช้แล้ว / ตอนนี้ RedHat เข้ามาร่วมด้วย / Spotify มี Backstage Subscription ด้วย (หลาย บ transform เป็น Tech จริงๆ)
Resource:
- What is Backstage? · Backstage Software Catalog and Developer Platform
- backstage/backstage: Backstage is an open platform for building developer portals (github.com)
- VDO: Session 1: Let's build a developer portal with Backstage - YouTube
MODERN APPLICATION PATTERNS AND HOW TO BUILD THEM ON AWS
- คิดว่าน่าจะอันนี้นะ Microservice พอดีฝั่ง Online ตัดมาเรื่อง Decoupling แม้ว่าพอจะระเบิดจาก monolith > microservice การแยกมันออกมา Decoupling มี Cost
- Type of Decoupling - โดยหลังจากนี้มา Focus ที่ Temporal Coupling ถ้าเป็น Code จะเป็นการ Call กับ แต่พอมาส่วนของ Microservice จะเป็นเรื่องของการสื่อสารและ
- Sync / Async Pattern
- Synchronous request-response model
- จุดเด่น low latency / Simple / Fail Fast
- จุดด้อย ต้องหาทาง Handle Receive Error / Receive Throttling (รุมยิง)
- Asynchronous Point to Point Model (Queue)
- แก้ปัญหาแบบแรก โดยเพิ่ม Message Queue ขึ้นมาตรงกลาง
- จุดเด่น
- มันจะลด Temporal Coupling ถ้างานชิ้นนั้นมีปัญหาเพิ่ม Dead Letter queue เพือเก็บไว้
- 1 Receiver จัดการกับ message ได้ที่ละอัน แต่สามารถเพิ่ม Receiver เพื่อมาจัดการ Message ได้ (Consumption Rate)
- จุดด้อย
- ต้องมาจัดการ Correlation ID (Key บอกว่าของใคร)
- เก็บ Backlog กรณีที่ Fail ต้องเก็บเวลาเท่าไหร่ จนกว่าจะได้รับคำสั่งใหม่ และสุดท้ายพอมีเคส Fail แล้วเราจะจัดการงานใหม่ งานที่ Fail ให้มันสมดูลกัน (Fairness) ได้อย่างไร
- Tools Amazon Simple Queue Service (SQS) / Amazon MQ
- Asynchronous Point to Point (Router)
- จุดเด่น มี Logic จัดการกับ Message ได้
- จุดด้อย Increate Location Coupling / ตัว Sender มี Logic ของตัวมันเอง ทำให้ใช้เวลามาขึ้น
- Async Message-Router (Bus)
- มาแก้ปัญหา อันแรก Location Coupling
- Tools Amazon EventBridge
- Event Driven Architecture
- Event - สัญญาณที่บอกการเปลี่ยนแปลงของระบบ //Immutable แก้ไม่ได้
- Sparse มีข้อมูลที่สำคัญ เช่น Key แต่ถ้าน้อยไป Receive จะมารุมขอเพิ่ม บ่อย อาจจะทำให้เกิดได้ DDOS
- Full State Description มีข้อมูลครบกว่า Sparse แต่ต้องระวัง เพราะ Field เยอะต้องมี Compatible ระหว่าง Version และ Cost ที่จัดเก็บ
- Choreograph - Subscripting Event และรอ Notify
- Event Uniqueness ต้องทำ
- Idempotency ถ้าได้ Event ซ้ำต้องประมวลผลได้เหมือนเพิ่ม เช่น ถ้าทำไปแล้ว ต้องไม่ทำ หรือทำแล้วผลเท่าเดิม
- Idempotency Key - ป้องกัน deduplication
- Orchastate Business Domain
- BPMN มาจัดการ Business Flow ไม่ต้องเขียน Code ผมมองว่าเป็น BPMN App แบบนึง
- Tools Amazon Step Functions: ใช้ UI Design Workflow / Code CDK / Python ได้
- Demo Amazon Serverless Espresso ภาพนึกถึงพวก Flow ในร้าน KFC เลย
Resource:
- (22) AWS re:Invent 2021 - Building next-gen applications with event-driven architectures - YouTube
- VDO: Session 2: Modern Application Patterns and How to Build Them on AWS - YouTube
EVERYTHING EASY DEPLOY, SCALE AND MANAGE IN DOMETIC CLOUD
- เกริ่นถึงเรื่อง Game ที่บางทีก็ Lag ค้าง หลายคน เรื่องของ Infra ไม่ใช่เรื่อง Server นะ แต่จริงๆ แล้วนอกจาก Server / Bandwidth หรือ Package Loss แล้ว มันขึ้นกับการ Design Infra ด้วย อย่างเคสของ Game Lag ที่เจอ Root Cause - Network Buffer ไม่พอ
- ดังนั้น Design สำคัญ มองถึงตอน Operate ด้วย
Simplify Design + Operation = Availability + Performance
- Proen Any Cloud - เพิ่งรู้ว่าเป็น Cloud Provider อีกเจ้าในไทย (Domestic Cloud) ทำได้ private / public / hybrid หรือ จะทำ Multi-Cloud โดยรองรับ
- Market Place - เอา SAAS มา Deploy ได้เลย
- DevOps Flow มีนะ ฝัง Dev เข้าไป Config ได้เลย หรือ K8S มีนะ
- Monitor ก็มีนะ
Resource
- VDO: Session 3: Everything easy Deploy, Scale and Manage in Domestic Cloud - YouTube
- Home - PROEN Cloud
SECURE SOFTWARE SUPPLY CHAIN FOR K8S APPLICATIONS
- AWS ไปแล้วสว Google ต่อเลย
1. Software Supply Chain Security
- Supply Chain สมัยนี้หลายอย่าง เราไม่ได้มาลงมือทำเองแล้ว บางอันเราก็ใช้วัสดุดิบจากแหล่งอื่นๆหมด - ถ้าใน IT อย่างเราจะเป็น Dependency
- ในมุมของ Container Security มาจาก 4C: Cloud Provider / Cluster / Container / Code + Dependency
- ทำไม Supply Chain ถึงสำคัญ มันไม่ใช้เรื่องใหม่นะ และเด่นๆ SolarWinds
- Trend ตอนนี้ Supply Chain เพิ่มขึ้นนะ
- Software Supply Chain Security: Attack Vector มาจากไหนบ้าง - ทุกจุดใน CI/CD ได้เลยตามรูป
- CI/CD Core Principle (จดๆไว้ก่อน มันจะไปตีกับ AZ-40 ในหัวไหมเนี่ย)
- Repeatable + Reliable Process
- Automate Everything
- Version Control
- Build in Quality
- Do the hardest parts first
- Everyone is reposible
- Accumulate Trust - ตรงนี้ส่วนของ Security และ Supply Chain Security จะเป็นหนึ่งในนั้นด้วย
2. Google Open-Source Security - Contribute ด้านนี้ยังไง ที่เด่นๆ
- slsa.dev - guideline ในการจัดการ supply chain risk
- Build Integrity - แก้ Code แอบมาใส่หลัง Build จบไม่ได้ / ตัว CI CD ของเรา Secure พพอ หรือยัง
- Source Integrity - Code Change History / Code Review / Compromised Source Control
- Dependency - Ref มั่วไหม หรือ มีความเสี่ยงอะไรบ้าง
Note: มีการจัด Level ว่าแต่ละองค์กรทำอะไรไปบ้าว ดังนี้
- deps.dev - DB ของ Google ที่แสดงถึง Insight ของ Open-Source Project มี Dependecy ที่เอามามี Quality ยังไง
- Scorecard - Risk Assessment System
- sigstore.dev - ช่วย Sign Service
- Container Analysis Scanner + Metadata Storage :
- Voucher - เอาไปเป็นส่วนนึงของ CI/CD ว่า Container เรามี CVE อะไรค้างไว้บ้าง และไป ทำเป็น Metadata และ Mitigate ตอน deploy
- Security Tools Policy
- สมัยนี้ Tread As a Code หมดแล้ว
- เน้นการ Shiftleft เข้ามามากขึ้น หรือทำ DryRun
- Break Glass ลงไปก่อน
3.Software Delivery Shield
- จากทั้งหมด ถ้าลงเองมันยาก ใช้ Service ที่มีตัว Software Delivery Shield
- Code (IDE Plugin) - ดูคล้ายๆ Sonar Lint
- Cloud Build - มันจะ Stamp Metadata ไว้ Build จากไหน มี CVE อะไรบ้าง
- ทำ Policy คุมใน cloud Run เช่น ตรวจ Image ก่อน deploy หรือ บอกว่าต้อง Build จาก Trust Source (Binary Authorization)
- Runtime Security Insight เป็นต้น
- รองรับ 3rd Party Integration: Synopsis Black Duck / CloudBees CI / Digester / Terraform
Resource:
- Software Delivery Shield
- GoogleCloudPlatform/software-delivery-shield-demo-java (github.com)
- VDO: Session 4: Secure Software Supply Chain for Kubernetes Applications - YouTube
HYBRILD CLOUD SECURITY CHALLENGES
- Hybrid Cloud Security Working group - บอกว่า Hybrid Cloud มีความเสี่ยงอะไรบ้อง ป้องกันอย่างไง แล้วมี Guideline ในการจัดการยังไง
- Hybrid Cloud = Public + Private Cloud ที่ต้องมี Link Connection เชื่อมกัน แต่ละแบบจุดเด่น
- Private - ข้อมูล Sensitive เราสามารถ Control ได้ดี
- Public - Tech ใหม่ เช่น AI / Serverless และต้องการ Scale บางส่วนได้
- Security ที่ใช้กับเทคโนโลยีทังฝั่ง Private / Public อาทิ เช่น การทำ Pseudonymization (น่าจะเขียนถูกนะ) Control Data ชุดเดียวกันบน Public (ไม่ Expose ออกไป) / Private
- Control Cost - Private (capex) / Public (opex)
- Hybrid Cloud Implementation
- Layer 3 Network: IP / VPN / Dedicate line
- Multi-Cloud Mangement Enable by Cloud Broker -
- Consistent Hybrid Cloud - ต้องหา Service ที่ match กัน ทั้ง Private + Public เผื่อต้องโยก resource ข้ามกันไป แล้วระบบไม่พัง
- Share Responsibility in Hybrid Cloud
- Hybrid Cloud Risk - อาจจะมาจากตัว Cloud เอง / Data Center ของเรา หรือ ช่องทางสื่อสารของ site
- DDoS - โจมตี เพื่อแยก Hybrid Cloud - อาจจะโจมตี Link ระหว่าง 2 Site
- Data Leakage - เกิดเมื่อมีการโยก Data ระหว่าง Private/Public
- Perimeter Protection Risks
- Compliance Risks - Data ควรอยู่ที่ไหน นึกถึงพวก PDPA เลย
- Misaligned SLAs - Cloud Provider แต่ละเจ้า + Vendor ที่ดูแล DC เรา มี SLAs ต่างกัน ทำให้เวลามีปัญหาเกิดขึ้น เราจะจัดการยังไง
- Misaligned of Cloud Skill Sets - เช่น จากเดิมเคยดู DC ขององค์กรมาก่อน พอมาเช่า Public Cloud แล้วจะเอา SE ของเราเข้าไปได้ แต่จริงๆ มันไม่ได้
- Gap in Security Control Maturity - Public + Private มองเท่ากันไหม
- Comprehensiveness of Security risk Assessment - ส่วนใหญ่จะพลาดเรื่องนี้ เพราะไปทำแยกกัน แต่ไม่ได้ทำในภาพรวม
- Security Challenge
- Cross Cloud Perimeter Security
- Perimeter Protection
- Access Control - ปกติจะมี 2 กลุ่ม Ser คนนอกเข้ามาใช้ Service) / คนในองค์กรที่เข้ามาใช้ หรือ จัดการ Service ต่างๆ และพวก connection validation
- Interface Security - เปิด Link ขึ้นมา 1 จุด เช่น เชื่อมระหว่าง Private /Public เรามีวิธีการจัดการ หรือควบคุมอย่างไร
- Cross Cloud Transmission Security
- Network Connection
- Communication Transmission
- Cross Cloud Storage + Compute Security ในมุมของ Bank จะแยกเป็น Tier ว่า App เราควรเป็นแบบไหน เช่น Tier1 มี HA ใน DC (Private จัดการอย่างไร) และบน Public Cloud ทำอย่างไร ต้องในเทียบกันไหม รวมถึง SLA แบบไหน มีมุมที่ต้องสนใจ ดังนี้
- Data Storage
- Computer resource - distribute อย่างไร
- Back restore
- Cross Cloud Management Security
- Identity Authentication - ทุกคนควรใช้ Account เดียวกัน Access Resource นอกจากคนแล้ว พวก Service จัดการอย่างไร
- Authorzation Management - เมื่อผ่านด่าน Authentication ตัว user นั้นควรจะมีสิ?ธิใน resource อะไรบ้าง app ไหน หรือ ถ้าเป็น DB ต้องระวังในส่วนของ Data
- Key Management - ควรจะอยู่ที่ไหน
- Operation & Maintenance - มุมด้าน Infra ถ้ามี Single Control Pane มาช่วยจัดการะช่วยได้มาก และสะดวก
- Operation Management - ถ้ามี cloud แล้ว ทีมที่ดูงาน Operation เช่น Batch ต่างๆ จัดการอย่างไร ให้มันล้อกัน
- Cross Cloud Perimeter Security
Resource:
- Hybrid Cloud Security Working Group | CSA (cloudsecurityalliance.org)
- VDO: Session 5: Hybrid Cloud Security Challenges - YouTube
TISCO BANTAO: FROM CRISIS TO OPPORTUNITIES WOTH LOW CODE&CLOUDS
- BANTAO = บรรเทา //ตอนแรกอ่าหัวข้อ ตอนแรกคิดว่าบ้านเต่า
- Intro Bank ใช้ Cloud กันหมดแล้วนะ
- BANTAO - ทำในช่วง COVID-19
- ทำให้ต้องเร่งพัฒนาระบบ 5 Days เพื่อให้ตอบสนองกับลูกค้าสินเชื่อ ต้องดูในแง่ Business / กฏหมาย เพื่อช่วยให้ลูกค้าได้รับผลกระทบจาก COVID19 ให้ทันท่วงที เพราะผลบกระทบมันวงกว้าง
- และมี User Experience ที่ดี - ได้ยินแว๊บว่าต้องมี Sync Data บางส่วนมาในบน Cloud ระบบบรรเทา
- แถมทีมงาน DEV ต้อง WFH - Amazon Workspace จัดการ Environment + ลดการสื่อสารลง Miro + MS Team
- แต่ต้องคง Security ตาม Standard ของ Bank
- Tech Stack ของ BANTAO -
- จะเห็นว่ามี Challenge จาก AS400 ซึ่งอยู่บน On-Premises ที่ไ่มี API ต้อง SFTP + เข้ารหัส ไปที่ Cloud
- ส่วน ฺBANTAO อยู่บน AWS Cloud เพราะสร้าง Resource ได้เร็ว / Scale ได้ง่าย + Cloudflare มาจัดการ Traffic มากๆ
- Flow CI/CD อยู่บนนี้ด้วย
- นอกจาก BANTAO แล้ว มี Digitial Form Platform Process ช่วยให้การจัดการ Form เป็นเรื่องง่าย แอบสงสัยตัวนี้ เป็น Low Code หรือป่าวนะ
- COVID-19: Digital Transformation ตัวจริง
Resource
CENTRALIZED LOGGING STACK ON K8S PLATFORM
- Centralize Logging - เอา Event ต่างที่เกิดขึ้นทั้ง System / App และอื่นมารวมกันที่ถังกลาง เพื่อช่วยให้การติดตามปัญหาได้สะดวก ถ้าแบบเดิมเวลาเกิดปัญหาเราต้องเข้าไปไล่ส่องให้ทุกๆ Microservice เพื่อมาหา Log วึ่งมันเปลืองพลังมาก
- Centralize Logging Benefit
- ง่ายกับการค้นหา และจัดการ
- user access management
- จัดการ Storage ได้ดีขึ้น หรือจะ Apply Policy ลงไป
- Event Log Correlation - เอา AI มาช่วย Track
- Centralize Logging Tech
- Data Collector - ปกติจะเป็น Agent ไว้กับ VM / Container
- Buffering
- Data Processing
- Index + Storage
- Visualization
- K8S - Container Orchestration จัดการ Self-Healing / Load Balancing / Auto Scale และ Rollout+Rollback เอาไว้จัดการการ Deploy เป็นต้น
- Lagacy VM Base Pain point - เวลาเกิดปัญหาในแต่ละ Component ต้องเข้าไปใน VM นั้นๆ เพื่อมาดู
- Fluenttd - Data Collector Agent
- RabbitMQ
- logstash - เอาไว้ตัดแต่ง Log
- open distro จัดเก็บ Log + indexing
- kibana - visualize
- Modernize ตอนนี้ปรับไปวางบน K8S หมด แล้ว Key นอกจาก Log Infra แล้ว ต้องมา Modernize App ด้วย โดยมีการแก้ ดังนี้
- Fluenttd > Fluentbit แทน เพราะกิน Resouces น้อยกว่า 100 เท่ากัน
- เปลี่ยน RabbitMQ > Kafka เพราะเหมาะกับ Streaming มากกว่า รวมถึง Scale ได้สะดวกกว่า RabbitMQ ต้องเพิ่ม Compute ให้ Instance เดิม
- Logstash - ปรับ Config ลด Rule ที่ไม่จำเป็น ทำให้รับ Load จาก Kafka ได้มากขึ้น
- Open Distro > OpenSearch
- OpenSearch Dashboard และเปิดช่อง Dev หรือทีมอื่นๆ เข้ามาตรวจสอบ
- Pros & Cons
- Pros : Open source / Realtime Logging / Easy to install (ใช้ผ่าน helm) / Easy to Patch จากเดิมต้องมาปิด VM Patch OS ตอนนี้เตรียม image ให้ secure และ deploy / K8S Pros
- Cons: Community Support / Learning Curve
- Lesson Learned:
- ถ้า deploy stateful app พยายามทำให้มัน HA ด้วย เพราะบางที data อาจจะ corrupt ได้
- ถ้า deploy stack นี้บน Cloud ต้องระวังเรื่อง Data Transfer ระหว่าง Region ด้วย
Resource:
- Slide / Mongkol Thongkraikaew – Medium
- VDO: Session 7: Centralized Logging Stack on Kubernetes Platform - YouTube
EXTRAME K8S HA ACROSS CLUSTER / REGION WITH CLUSTER MESH
- Why Extreme HA ?
- Application ตอนนี้ Critical ทุกวัน เช่น App ขายหวย / E-Commerce ช่วง 10.10 11.11 โดยที่ App 24*7
- K8S HA By Default แต่ทว่ายังไม่รองรับเคส Extreme เช่น Fail ทั้ง Cluster ต้องเพิ่ม Cluster ขึ้นมา ถ้าจะให้ปลอดภัยสุดการแยก Cluster อยู่คนละ Region หรือ Provider เลย ตัว Hybrid Cloud กับ multi-Cloud มาตอบในส่วนนี้
- Generic failure Case
- ทำอยู่ microservice ที่เกี่ยวข้องของ failure ไปซะงั้นทำให้ Flow สะดุด
- Config ผิด เช่น ใส่ LABEL/ชื่อ ผิด พังกันทั่วหน้า อาจจะเกิดจากการ Maintain มาหลายมือ หรือ เจอสิ่งที่มองไม่เห็น เช่น space เป็นต้น
- ตกลงกันไม่ดี อาจจะมีทีมแรกวาง K8S แต่ไม่ได้ตกลง namespace + request สุดท้าย Resouces ไม่พอ
- Solution
การแก้ปัญหา Partially Microservice Failure ด้วย K8S – ซึ่ง Partially Microservice Failure การที่ Set ของ Microservice ที่ทำงานด้วยกัน เกิด Fail ไปตัวนึงทำให้ Flow งานสะดุด
- Sol1 ใช้ DNS + Load Balance มาช่วย ถ้า fail ให้ไปจิ้ม K8S อีกชุด > ไม่แก้ปัญหาตรงเรื่องนี้ ย้ายไปทั้งชุดเลย ถ้า User ทำงานอยู่ไปเริ่มต้นทำใหม่เลย
- Sol2 Set Worker ให้กระจายข้าม Region > ทำได้ แต่มีปัญหา High Latency / Unstable Cluster (Down แบบแปลกๆ) ถ้าอยากเร็วใช้เงินแก้ปัญหาเพิ่มเส้นเชื่อมตรง
- Sol3 ใช้ KubeFed ทำ Federation สร้าง Management Console มาจัดการ Cluster ในแต่ละ Region แต่ซับซ้อนมาก เพราะนอกจากดูว่าจะจัดอยู่ใน namespace ไหน / resource เท่าไหร่ / Balance Cluster แต่ไม่แก้ปัญหานี้ตรงๆ และใช้งานยาก (huge complicate) และตัว Tools นี้ยังไม่ GA
- Sol4 ใช้ Cilium
- ทำ Cluster Mesh - ให้ Cluster A และ ฺB คุยกันได้ในบาง Service ที่สนใจ
- Less Effort ไม่ต้องแก้ YAML เยอะ
- สามารถกำหนด Affinity ให้เชื่อ Local ก่อนได้ และแก้ปัญหาของ Sol2 ได้ด้วย (Ver 1.12 Jully 2022)
- Cilium Network Mode
- Tunneling Mode (Default) - VXLAN
- Direct Routing (ถ้า IP ของ Pod เป็น IP แท้เป็น)
- Transparent Encrypt Mode เปิด IP Sec แต่กิน Resouces มหาศาล
- CLUSTER MESH USE-CASE
- HA - บน Cloud / On-Premises / Hybrid ก็ได้
- ทำ Share Service ของ Internal Use-Case
- Separate Service (Apply จาก Share Service) แยก Service Stateless / Stateful
Resource:
- praparn/kubernetes-clustermesh-092022: kubernetes-clustermesh-092022 (github.com)
- VDO: Session 8 : Extreme K8S HA across cluster region with Cluster Mesh - YouTube
CREATE HIGHLY SECURE AND RESILIENT CLOUD-NATIVE APPS WITH MS AZURE
- Design - สิ่งที่ต้องสนใจ
- Data Management
- Design & Implement - เอาง่ายการต่อ App DB ควรทำ Connection Pooling รวมถึง Logic ในการเขียน Code ของเราด้วย
- Messing - ทำอย่างไงให้ของไปถูกเป้าหมาย
- ดูเพิ่ม Cloud Design Pattern
- Capacity
- เข้าใจ Nature ของการ Event ต่างๆ ก่อน ว่ามีลักษณะแบบไหน Peak ช่วงแรก หรือ Peak เป็นช่วง เช่น จอง iPhone / จองวัคซีน
- Performance นอกจากเรื่อง Design +Code เวลา Scale ต้องเผื่อเวลา Provisioning ของแต่ละ Resource กดปุ่มได้ปั๊บ
- Protection
- ใช้่ Zero Trust Principle - Azure มีตัว Microsoft Defender
- ส่วนที่มีปัญหาจะดดนประจำ Jump Host / Build Server
- Insights - เราบอกได้ไงว่าเอาอยู่ หรือไม่อยู่
- Eye มาดู Application Insight - APM ดู Telemetry trace ว่าปัญหาเกิดจากอะไร เช่น อาจจะเกิดจาก Logic ของ Code แต่ DB ทำงานปกติ ทำให้ App ของเรารับ Load ได้มากขึ้น ใน Resource เท่าเดิม
- Uninterrupted - ถ้ามีเหตุคาดไม่ถึงทำอย่างไร ?
- Plan for Global Distributuion - Multi region / CDN / Front Door เป็นต้น
Resource
- How to Build a High Scalability Web "Vaccine Booking for Thais" within 10 Days
- Azure Base Camp EP.34 สร้าง App ลงทะเบียนยังไงไม่ให้ล่ม
DOUBLE 11 BEHIND THE SCENES
- Alibaba Cloud เป็น Cloud อีกเจ้านึงที่มาทธุรกิจใจไทย มี Region BKK แล้วนะ Double11 มี 4 Key ที่ช่วยให้ราบรื่นมาสะดุด ได้แก่
- Cloud Native Technology - Scale Software
- Hyper-Scale Data Centers - Scale hardware
- Intelligent Robot - เอามาจัดการคลังสินค้าได้รวดเร็ว
- Live Streaming + AI Transformation
- Key อีกอันนอกจาก 4 Key ข้างต้นแล้ว ยังมีตัว PolarDB ที่เป็น distribute database ที่มาช่วยจัดการข้อมูลที่ load เข้ามาจำนวนมาในช่วง 11
- EMAS Product - จัดการ API ต่างๆของ mobile หรือจะไปทำ Super App ก็ได้
Resource
- EMAS Mobile DevOps solution-Mobile DevOps-Alibaba Cloud Developer Community - Alibaba Cloud
- Alibaba Cloud: Cloud Computing Services
- VDO: Session 9: Create highly secure and resilient cloud native apps with Microsoft Azure - YouTube
EVERYONE CAN BE A DEVELOPER WOTH HUAWEI CLOUD APPCUBE
- สำหรับ Huawei Cloud เปิดตัวมา 4 ปีในไทยและ ตอนกันยามีจัดงาน Huawei Connect 2022@BKK ไปด้วย
- Trend ตอนนี้ทุกอย่างไปไว้ขึ้น และ
- Expected ของผู้บริหาร(Hours) กับคนทำงาน (Week ... Month) ต่างกัน
- การมาของ Cloud ทำให้การ Provision resource ไวขึ้น
- การเพิ่มคนอัดๆลงไปก็ไม่ช่วยในงานไวขึ้น เพราะมีงานความซับซ้อน
- ดังนั้น No Code / Low Code มาเป็น trend (ของ Gartner) ที่มาตอบโจทย์ตรงนี้ เตรียมด้าน Tech ให้พร้อม และจะได้เอา Business User เข้ามาจัดการ บน Huawei จะมี Service AppCube ที่เป็น Low Code/No Code
- AppCube ตอนนี้ใช้ใช้ในจีน นอกจาก No Code/ Low Code แล้วยังต่อกับ Code ได้ด้วย โดย Feature ของตัวนี้
- Metadata - สร้างจาก DB ที่มี หรือจะเอา Excel Import เข้าไปก็ได้ หรือ Connect กับ OBS / S3 ก็ได้นะ
- No Code - ถ้าเอาจาก template ที่มีให้
- Low Code
- Customize จาก Template และปรับตาม Screen แบบต่างๆได้
- ถ้าไม่เชี่ยววาดใส่กระดาษ ถ่ายรูป และให้ตัว DMAX (AI) สร้าง UI ก็ได้
- รวมถึงการทำ Visualize ออกมาได้ ถ้าทำเสร็จ ทำเป็น template เพื่อ Re-used ต่อได้
- Business Process Support - ทำ Workflow ที่ใช้งานกันบ่อยๆได้ เช่น Approval / ลา เป็นต้น
- มี Flow Dev ในตัว
- ขยับไป Deploy Sandbox เพื่อ Test
- ถ้าผ่านแล้วขยับไป Production
- ปีนี้ Low Code มาแรงจริงๆ เหมือน Feature จะพอๆกับ Power Platform ของทาง MS ด้วย
Resource :
- AppCube _Low-Code Application Platform_HUAWEI CLOUD
- VDO: Session 11: Everyone can be a developer with Huawei Cloud AppCube - YouTube
ADD AI TO YOUR APP WITH AZURE CUSTOM VISION SERVICE
- ทุกวันนี้ AI มันเกี่ยวกับตัวเราหมดเลย
- ปีนี้ AI จากเดิมที่แบบเราต้อง พิมพ์ คลิก บอกมัน
- ถัดมายุคของ siri / google assistant
- ปีนี้มาวาดรูปได้แล้ว midjourney / แนะนำ Code ได้
- คอนนี้ App เริ่มมี AI เข้ามาแล้ว โดยการทำให้มี App มี AI ได้ต้องทำ Machine Learning ให้มันเรียนรู้ จากข้อมูล > train > Model ปกติกว่าจะได้ Model ต้องใช้เวลา+compute ที่เยอะ
- จากปัญหาข้างต้น ใช้ Cloud เข้ามาช่วยสิ ทาง Azure แบบ End-User 2 กลุ่ม
- End-Users (Citizen Developer) - มีความรู้ Business แต่เขียน Code ไม่เป็น ใช้ Low Code / No Code - PowerPlatform - มี AIBuilder
- Developer - เขียน code ได้ หรือจะใช้จาก API ของ Cognitive Service)
- จากนั้นจะเป็น Demo Azure Custom Vision Service ที่อย่ในส่วน Compter Vision เรียนรู้จากภาพจานสีแดง/ดำ
- สร้าง Resource บน Azure Custom Vision? -Learn
- ใช้ Custom Vision - Home ในการ Train
- ถ้า Model แล้วก็ Deploy Model ขึ้นไป และนำ EndPoint (WebAPI) ไปใช้งานกับ APP ของเราต่อ
- พอ Huawei มา Low Code / MS มาต่อ Low Code 555
Resource:
- Teerasej Jiraphatchandej | - Nextflow
- VDO: Session 12: Add AI to your app with Azure Custom Vision Service - YouTube
Reference
Discover more from naiwaen@DebuggingSoft
Subscribe to get the latest posts sent to your email.