มารู้จักกับ Gartner Hype Cycle เครื่องมือที่ช่วยให้คุณนั้นอินเทรน

ยุตนี้ทุกๆอย่างมันไปไวมากครับ แปบๆ เทคโนโลยีที่คุ้นๆกันก็ตายแล้ว ตัวอย่างที่ใกล้ตัวสำหรับคนหลายๆคน เช่น BlackBerry(มือถือที่มี Keyboard) ที่เมื่อก่อนโด่งดังมาก แต่สุดท้ายโดน SmartPhone ที่ใช้เทคโนโลยี Touch Screen เข้ามา Disrupt ไป ซึ่งเราสนใจที่จะศึกษา หรือลงทุนอะไรแล้ว ให้ทันกระแสบูมของตลาด ทาง Gartner มีการวิจัยไว้ครับ โดยมีทั้งแบบฟรี และเสียตังค์ ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ ตัว Hype Cycle ครับ

แล้วตัว Hype Cycle เป็นยังไง มันเป็นแผนภาพที่แสดงวัฎจักรของสิ่งที่เราสนใจ  ถ้าดูในรายงานที่เสียตังค์ รู้สึกว่ามีการกำหนดช่วงปี ไว้ด้วยครับ ว่า เทคโนโลยี /นวัตกรรม / Trend อยู่ในกระแสได้นานเท่าไหนครับ โดย Hype Cycle มีการแบ่งเป็นทั้งหมด 5 ช่วงครับ

• Technology trigger(Innovation Trigger)
  • เทคโนโลยี /นวัตกรรม / Trend (ต่อไป ผมขอเรียกรวมๆว่า Trend ครับ) เริ่มมีการคิดค้น ได้ผลบ้างแล้ว มีคนเริ่มเข้ามาสนใจแล้ว
• Peak of inflated expectations
  • จุดสูงสุดของ Trend  ครับ มีคนสนใจอย่างแพร่หลาย และมีบางที่นำปรับไปใช้ แล้ว สำเร็จ และล้มเหลวครับ
• Trough of disillusionment
  • ถ้าถามผม ผมมองว่าเป็นช่วงวัดใจครับ เพราะจากจุด Trend ได้ตกลงมาจากจุดสูงสุด โดยอาจจะเกิดจากมี Trend อันใหม่ ผู้คนเห็นแล้วว่ายังไม่น่าใช้ หรือเจ้าของ Trend นั้นเอง ยังไม่ได้มีการประกาศความสำเร็จ หรือข่าวใดๆ ครับ
• Slope of enlightenment
  • Trend ดังกล่าว สามารถหลุดมาจาก Trough of disillusionment ได้ และผู้คนเริ่มเข้าใจ รู้จักในวงกว้างๆ แล้วมันเป็นอย่างไร ถ้าในช่วงนี้ น่าจะเป็นพวก Data Science / Big Data
• Plateau of productivity
  • Trend นั้นพร้อมใช้งานจริงใช้จริง ทุกอย่างมันนิ่ง และเสถียรแล้ว ถ้ามีอะไรใหม่ๆ มันกลับไปในช่วง Technology trigger อีกครั้งครับ

ตัว Hype Cycle มีในด้านไหนบ้าง ขอตอบเลยว่าเยอะมากครับ อาทิ เช่น

• Hype Cycle for Emerging Technologies, 2017
• Hype Cycle for Application Development, 2017
• Hype Cycle for DevOps, 2017
• Hype Cycle for Data Management, 2017
• Hype Cycle for Risk Management, 2017
• Hype Cycle for the Digital Workplace, 2017
• และอื่นๆ ทำเยอะจริงๆครับ Gartner เป็นบริษัทที่เน้นการขายข้อมูลอยู่แล้วครับ

แล้วถ้าตัวที่ถูกใจ แต่เสียเงินหละ อันนี้ไม่ต้องเครียดไปครับ สิ่งที่เราต้องทำ หรือมันมี Blogger แบบผมนี้แหละที่ช่วยสรุปภาพรวมให้คร่าวๆ ว่าแต่ละ Hype Cycle มีอะไรที่เด่น หรือด้อยลงไปครับ ขอแค่มี Skill ภาษาอังกฤษก็พอครับ แต่ระวังด้วย Blogger อาจจะมี Bias ได้ ลองหาของหลายๆเจ้ามาเทียบกับ

สุดท้ายแล้ว มีข้อมูลที่ได้จาก Gartner หรือป่าวที่ทำงานในลักษณะนี้ ขอตอบเลยว่าไม่ใช้ครับ ยังมีอีกหลายเจ้า เข่น Standish Group หรือถ้าลงเฉพาะด้านไปสาย Tech โดยเฉพาะ ผมใช้ตัว Thought Work technologies radar จริงๆ ผมตามตัวของ Thought Work มาก่อนครับ เพิ่งมารู้จัก Gartner จริงๆจังๆ ก็ตอนเรียน ปริญญาโท ครับ