Blog นี้พยายามเขียนเป็น 2 ภาษา แม้ว่าผมจะรู้ภาษาอังกฤษแค่งูๆปลาๆนะครับ เข้าเรื่องเลยดีกว่าลองมาดูคำศัพที่คิดว่าควรรู้กันก่อน
- Rewrite code - การเขียน Code ใหม่
- Refinance - การกู้เงินจากธนาคาร พอผ่านไปสักระยะเราตัดสินใจกู้เงินมาจากธนาคารอีกแห่ง เพื่อเอาไปโป๊ะหนี้ก้อนเดิมครับ
ทำไมต้อง Refinance
- มีสิ่งจูงใจครับ ไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ย ระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น หรือ เพิ่มวงเงินที่กูได้
แล้ว Refinance มันไปเกี่ยวกับ Rewrite code ยังไง ?
ลองคิดดูทำไมเราต้องเขียน Code ใหม่หละ ?
- เปลี่ยนเทคโนโลยี เช่น VB6 ไปเป็น MS.NET หรือ Java หรือ จาก WinApp เป็น WebApp
- Requirement เปลี่ยน
- Code มันเน่าเละจนอ่านไม่ออก
- เวลาไม่เคยเพียงพอ - งานเผานั้นเอง
รู้จักกับ Technical Debt ก่อน
- มัน คือ หนี้ทางเทคนิคจากการที่เราละเลยการทำสิ่งที่ดีเหมาะสม
- เราอาจจะรีบเผางานบางอย่างให้ทันตามกำหนด เช่น Hard Code ค่าบางอย่างไว้ ไม่ update software
- พอนานวันเข้าหนี้ที่สะสมไว้ มันพอกพูนใน code base มัน อ่านยาก
แล้วที่เขียน Code ที่เขียนใหม่มันไม่ต่างกับ Refinance เหรอ ?
- เราลด Technical Debt ให้ Code อ่านง่าย Maintain สะดวก
- ยืดระยะเวลาในการที่ตัว Dev เอง เขียน Code ใหม่ได้ยาวนานขึ้น
- คำตอบในมุมของผม คือ ไม่ต่างกันเลยครับ
แล้ว อะไร คือ สิ่งที่ดีที่สุดหละ
- อย่าดินพอกหางหมู หมั่นตรวจเช็คสถานะของ Code อยู่ประจำ (ตรวจเครดิต) พวก Code Analysis ทั้งหลาย
- ลดหนี้เป็นระยะด้วยการ Refactor ปรับ code ให้ดีขึ้น แต่พฤติกรรมเหมือนเดิม ทำ Test ประกบ
ปิดท้ายด้วย Code ที่คิดเอง ไม่รู้มีคนคิดซ้ำไหมนะ ลองอ่านดูครับ ^___^
Rewrite Code is Refinance,
but Refactor is the best.
Discover more from naiwaen@DebuggingSoft
Subscribe to get the latest posts sent to your email.
