วันที่ฝนตก ออกจาก บริษัทตอน 16:48 ทำงานเพลินไปนิดนึง จากที่ลาไว้ตอน 16:30 จากนั้นรีบกลิ้ง หรือวิ่งมา BTS ครับ ฟ้าร้องไล่ ตามมาติดๆ ถึง BTS วงเวียนใหญ่ตอน 17:10 เติมเที่ยว 15 รอบ ถูกกว่า 4 บาท ถ้าเติมเงินในบัตรครับ จากนั้นรอรถไฟฟ้า BTS ไปสถานีศาลาแดงครับ และไปต่อ MRT ครับ แต่พอไปถึง MRT คิวแน่นเกิ้นนน เลยเดินมาและกัน ถือร่มเดินท่ามกลางสายฝน แบบตัวประกอบฉาก มาถึงที่เรียนตอนประมาณ 17:45 ครับ นั่งรอสักแปบ อาจารย์เข้ามาสอนครับ
กลยุทธ์ คือ อะไร ?
- การวางแผนในอดีต ที่ส่งผลกับปัจจุบัน และในอนาคต
- เป็นแผนที่มีแนวทาง หรือวิธีการที่สร้างความมั่นใจได้ว่าทำให้องค์กรมีความได้เปรียบในการแข่งขัน
- แนวทางที่ทำให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้
- มีทิศทางที่แน่นอน
- ใช้กับเวลาและสถานการณ์ที่เหมาะสม เพราะ กลยุทธ์ต้องปรับได้ตามเวลา เช่น บริษัท A แรกๆเน้น Low Cost พอเวลาผ่านไปคู่แข่งเริ่มลอกเลียนแบบ จึงต้องปรับกลยุทธ์เน้นคุณภาพ ความแตกต่างแทน
- มีกำไร
จำเป็นไหมที่ต้องมีกลยุทธ์
ไม่จำเป็น แต่ต้องดู Demand-Supply ว่าสินค้าหรือบริการของเรามีน้อย (Supply-น้อย) แต่ความต้องการเยอะ (Demand-มาก) แต่ความเป็นจริงมันมีแบบนี้น้อยมาก โดยพวกที่เป็นไปได้ที่จะไม่ต้องใช้กลยุทธ์ ได้แก่ พวกองค์กรที่เป็น Monopoly ครับ หรือพอใจกับสิ่งที่เป็น แต่ถ้าเราไม่พัฒนา บริษัทเราอาจจะกลายเป็นหมากในกลยุทธ์ของคู่แข่งได้ครับ
กลยุทธ์มีแบบไหนบ้าง ? - ทุกอย่างมี Trade off มีจุดเด่น-จุดด้อย
- เพิ่มยอดขาย
- รับมือกับเงื่อนไขของตลาดที่เปลี่ยนไป
- เปิดตลาดใหม่ หรือ ออกจากตลาดเดิม
- ควบรวม - ถ้ามีทรัพยากรมากพอ
- เป็นพันธมิตร - ถ้าดูแล้วการครอบงำด้วยการควบรวมกิจการ ไม่คุ้ม
- หาโอกาสใหม่ หรือหลบเลี่ยงอุปสรรค
- R&D เพิ่มประสิทธิผล
- ลดจุดอ่อน - เสริมจุดแข็ง
- หาแนวทางใหม่ อตุสาหกรรมใหม่ - กระจายความเสี่ยง
พักกินข้าวครับ วันนี้เมนูหลากหลายครับ
ใช้กลยุทธ์ไปเพื่ออะไร
- Profitability - ความสามารถในการทำกำไร ดูจากผลตอบแทนต่อเงินทุน (ROIC)
- Superior Performance - ผลการดำเนินงานที่เหนือกว่า ดูจากกำไร
- Competitive Advantage - ความได้เปรียบในการแข่งขัน ดูจากกำไร
- Sustainable Competitive Advantage - ความได้เปรียบอย่างยั่งยืนเป็นเวลานานหลายปี
- ** การดูผลลัพธได้ ผมเข้าใจว่าต้องมีการตีออกมาเป็นตัวเลข ผลลัพธ์ที่ได้จากออกมาในส่วนของงบการเงิน เราสามารถวิเคราะห์ และเอาค่าต่างๆมาตอบได้ครับ
โครงสร้างอตุสาหกรรมมีผลกับกำไรนะ ลองดูรูปด้านล่างได้เลย
วางกลยุทธ์บนอะไร ?
- Resource - ทรัพยากร
- Capabilities - ความสามารถในการใช้
- * Resource & Capabilities = Competencies ออกมาเป็น Strategies และตัวกลยุทธ์กลับไปสร้าง Resource และ Capabilities ให้ตอบสนองต่อไป จนได้ผลลัพธ์
ระดับของกลยุทธ์
- Corporate Strategy - อ บอกว่ามีอีกตอนสำหรับเรื่องนี้ เดวรอ Blog
- มาจาก CEO หรือ Board บริหาร
- สิ่งที่ได้ออกมา คือ Vision Mission Objective
- Business Strategy - มองลงมาอีกระดับนึง ถ้า Corporate ยกตัวอย่างเป็นเครือ CP สำหรับ Business แตกย่อยลงไป เช่น 7/11, CPF เป็นต้น ทำมาเพื่อเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน
- ถ้าบริษัท องค์กรไม่ใหญ่มาก Corporate Strategy ก็คือ Business Strategy
- Characteristics ของ Generic Strategies ตามแนวติดของ Michael E. Porter
- ทุกองค์กรสามารถใช้งานได้
- สามารถใช้กับทุกอุตสาหกรรมได้
- ต้องการผลลัพธ์ที่คงเส้นคงวา ไม่ว่าจะเป็นสินค้า ตลาด หรือ distinctive competencies(ความสามารถที่แตกต่างอย่างโดดเด่น)
- Generic Business Strategy (ทำไมไปนึงถึง Generic Programming ของฝั่ง Com-Sci ก็ไม่รู้)
- Cost Leadership - ลดต้นทุนให้ถูกที่สุด ซึ่งส่งผลกับ Functional Strategy ที่ต้องเน้น Efficiency ลูกค้าไม่พอใจสินค้า แต่ราคาถูก รับมือกับสงครามราคาได้ดี รอดเป็นบริษัทสุดท้าย เช่น Walmart ในไทยเป็นพวก Big-C, Tesco Lotus เป็นต้น
- Differentiation - สร้างความแตกต่าง เน้นราคาสุงทำให้ดู Premium (แต่ของต้อง Premium ด้วยนะ) มี Innovation - เช่น
- Microsoft - Windows Office มีความหลากหลาย และรองตลาดกว่า 90%
- BMW, Mercedes Benz
- Focus - สนใจเจาะลึกไปลงอีก โดยดูตามกลุ่มลูกค้า, พื้นที่ หรือ Product Line (อาทิ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า, รถยนต์)
- Focus Cost Leadership - ต้นทุนน้อยกว่า Cost Leadership เพราะเน้นเฉพาะบาง Product เช่น สายการบิน Low Cost
- Focus Differentiation - เน้น R&D สร้างความแตกต่างให้มันสุดๆ จนคู่แข่งตามไม่ทันได้ง่ายๆ เช่น รถ Porsche
- * Broad Differentiation - แตกต่างอย่างกว้างๆ ทำได้ เพราะ มีเทคโนโลยี และนวัตกรรมเข้ามาช่วย ได้แก่
- IT - Software , Internet - E Commerce
- Robot แทนคน หรือ ย้ายฐานการผลิต ลดค่าแรงคน
- สร้างชิ้นส่วนต่างๆให้มีมาตรฐานใช้ได้กับหลายๆ Product
- Limits Options - Customize ตามที่กำหนดไว้เท่านั้น (แต่ในฝั่ง Software มักเจอขอ Customize แปลกๆบ่อยๆ)
- JIT inventory
- ตัวอย่าง เช่น Toyota , Samsung
- * Stuck in the middle - ไม่ทำอะไรเลย กำไรน้อยๆ เพราะไม่เลือกทางเดินชัดเจน
- Functional Strategy - Unit ย่อยที่สุด แตกมาจาก Business Strategy ในแต่ละ Unit เพื่อเพิ่ม Effectiveness จาก 7/11 มาสนใจแต่ละหน่วยงานกำหนดกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับ Business Strategy
- สนใจ Efficiency, Quality, Innovation และ Customer Responsiveness
- Functional ในด้าน Marketing, R&D, Financial, Operation, Purchasing, Logistic, HRM และ IT
สำหรับใน Session นี้ฟังแล้วโอเคนะ คิดตามและทำความเข้าใจ แต่ต้องฟังตัวอย่างของอาจารย์ประกอบด้วย ถึงจะเห็นภาพที่ชัดเจน ในคาบนี้อาจารย์ยกตัวอย่างของสายการบิน Low-Cost Southwest Airline ทำไมถึงทำได้ราคาถูก และรอดจากผลกระทบของเหตุการณ์ 911 มาได้ครับ
Discover more from naiwaen@DebuggingSoft
Subscribe to get the latest posts sent to your email.