ช่วงที่ผ่านมาทุกคนคงได้เห็นข่าวที่ว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยบังคับให้ทุกๆธนาคาร เปลี่ยนบัตรจากบัตรแถบแม่เหล็กไปเป็นบัตรชิปแทนครับ เพื่อป้องกันจากการถูก skimming ครับ
เจ้าตัว skimming คือ การฉกข้อมูลบัตรแถบแม่เหล็กครับ โดยฉกจากตู้ ATM เพราะ ตั้งกระจาย และมีุดอับที่สามารถแอบติดตั้ง Tools ที่ฉกข้อมูลได้ง่ายสุดครับ โดยการ skimming มี 2 Step ครับ
- ฉกข้อมูลในบัตร โดยดึงมาบัตรแถบแม่เหล็ก เพื่อนำไปทำบัตรปลอม
- ฉกข้อมูลรหัสผ่าน โดยติดกล้องในตู้ ATM เพื่อเก็บรหัสผ่านไปใช้กับบัตรปลอมครับ
ในไทยมีตัวอย่างเหมือนกันนะครับ ขอบคุณข้อมูลจาก Pantip ครับ
สำหรับช่วงนี้ คงไม่มีธนาคารไหนให้บัตรแถบแม่เหล็กมาแล้วครับ ช่วงนี้คงเป็นช่วง Parallel Phrase จนถึงสิ้นปี พ.ศ. 2562 บัตรแถบแม่เหล็กจะใช้งานไม่ได้อีกต่อไปครับ แล้วที่นี้บัตรชิป มีสิ่งที่เราควรรู้อะไรบ้าง
- บัตร ATM ไม่มีอีกแล้ว เป็นบัตร Debit แทนครับ เพราะบัตรชิป รองรับระบบบัตร Debit ได้ในตัวเลยครับ โดยเจ้าชิป EMV เกิดมาจาก Europay, Master Card และ VISA ที่ร่วมกันแก้ปัญหาของบัตรแถบแม่เหล็กป้องกันการแอบขโมยข้อมูลในบัตรครับ เมื่อมันเกิดจากผู้ให้บริการ ชิป EMV จึงสามารถลิงค์กับผู้ให้บริการได้เลยครับ สำหรับใครที่อยากให้บัตรมีเฉพาะ Feature ATM สามารถแจ้งพนักงานได้นะครับ
- บัตรชิป ใช้เวลาในการทำงานนานขึ้นสักนิด สำหรับเครื่องรุ่นเก่าๆ แต่จริงๆ ถ้าตัดพวกโฆษณาไปน่าจะทำงานเร็วขึ้นครับ โดยเฉพาะตู้ Kbank ต้องรอ Video Ads ที่เล่นอยู่ แถมกระตุก ให้จบก่อน ถึงทำงานต่อได้ครับ
- รหัสผ่านเพิ่มขึ้นจาก 4 ตัว เป็น 6 ตัว หลายคนอาจจะงงๆ ตอนใช้งานได้ครับ ต้องใช้เวลาปรับตัวครับ
เกริ่นที่มาซะยาวเลย มาดูกันดีกว่าว่า แต่ละธนาคารมีกำหนดการรับเปลี่ยนบัตร และมีค่าใช้จ่ายอย่างไร
มาดูบัตรแม่เหล็กที่ใช้มา 9 ปีของ SCB ดีกว่า ผมว่าลายมันสวยมากๆครับ ใช้มานานตั้งแต่ ม.5 ยาวมาถึงตอนทำงานเลย
อันนี้อันใหม่ครับ แต่บัตรอันเก่าสวย สง่ากว่านะ อยากได้ลายแบบเก่า T....T
Discover more from naiwaen@DebuggingSoft
Subscribe to get the latest posts sent to your email.