คำกล่าวแรกสำหรับ Project นี้ของ Microsoft ครับ
หลายคนอาจจะได้อ่านข่าวไอทีที่ว่า Microsoft เปิดตัว Data Center ใต้น้ำ ตัวแรกของโลก โดยใช้ชื่อโครงการ Project Natick และสร้างตัวแบบชื่อ Leona Philpot ซึ่งผ่านการทดสอบมาแล้วจำนวน 105 วัน เรามาดูกันว่าทำไมยักษ์ใหญ่ด้าน IT อย่าง Microsoft ถึงคิดเช่นนั้นครับ
- ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศมันเปลือง และใช้ไฟฟ้าเกือบ 3% ของทั้งโลกใบนี้ ถ้าเราย้าย Data Center ลงไปใต้มหาสมุทรที่มีอุณหภูมิที่เย็น มันช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในส่วนนี้ได้
- ประชากรครึ่งหนึ่งของโลก อยู่ในบริเวณ 200 km จากชายฝั่ง ซึ่งการวาง Data Center ใกล้กับพื้นที่ที่ต้องกรใช้งานจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในส่วนของการวางโครงข่ายลงครับ
- ลดเวลาในการสร้าง Data Center จาก 2 ปี เหลือ 90 วัน เพราะ มีการออกแบบ Data Center เป็นแคปชูล ซึ่งพร้อมนำไปติดตั้งได้ทันที
- สามารถใช้พลังงานทางเลือกได้ในอนาคต เช่น พลังงานจากคลื่น
- Environment-Friendly ทาง Microsoft กล่าวไว้ว่า Data Center ของพวกเค้า สร้างความร้อนน้อย และไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมครับ
เมื่อมีเหตุผลในการสร้าง แล้วก็ต้องมีข้อจำกัดครับ เพราะ ปกติงานทาง IT กับ Data Center จะอยู่บนบก คราวนี้ไปอยู่ใต้น้ำ
- ทางทีมที่ Microsoft ใช้ต้องมีประสบการณ์ลุยๆ โดย Scuba engineers เพื่อดูเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันนะครับ (ตอนนี้ทาง Microsoft ยังไม่มีนะครับ) แต่เจ้าตัว Data Center ออกแบบใช้มีอายุการใช้งาน 5 ปีครับ
- ภัยจากธรรมชาติต่าง ๆ เช่น แผ่นดินไหว สินามิ เป็นต้น
- ภัยจากความเค็มของน้ำทะเล ที่อาจจะส่งผลให้อุปกรณ์ต่างๆ สึกหรอเร็วขึ้นครับ (หากไปพวกชายทะเล จะพบว่าพวกลูกบิด ประตู สิ่งของต่างๆ จะเสื่อมเร็วมากครับ)
ที่มา : The Hacker News , Project Natick
Discover more from naiwaen@DebuggingSoft
Subscribe to get the latest posts sent to your email.