Agile Thailand 2015 @จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ผ่านจากวันงานมาและ 5 วัน เพิ่งจะมาเขียน งานจัดวันที่ 9 พฤษภาคม 2558 ครับ (ด่าตัวเองไว้ก่อน ฮ่าๆ เพราะจะได้เขียนให้ตัวเองสรุปสิ่งได้ลง Blog ก่อนที่จะลืมมันไปครับ) โดยงานวันนี้เป็นงานที่ผมรอมา 2 ปี น่าจะใช่นะ ที่สามารถจองตั๋วทัน ฮ่าๆ โดยเมื่อมาถึงในงานผมขอสรุปงานในวันนั้นคร่าวๆ ดังนี้ครับ

ช่วง 8.00 - 10.00 เป็นช่วงการลงทะเบียน และการนำเสนอ แบ่งปัน Idea ต่างๆครับ โดยช่วงก่อนเริ่มงาน มีการใช้ Speaker มาเสนอหัวข้อตัวเองครับ ว่ามีความน่าสนใจแค่ไหนครับ โดยงานนี้ เราจะไม่ได้เข้าฟังทุก Session ต้องเลือกหัวข้อที่สนใจครับ

This slideshow requires JavaScript.

ช่วง 10.00 - 11.00 ผมได้เข้าฟัง Session "Introduction to Agile with post-it ใน Session นี้เป็นการเรียนรู้ Agile เบื้องต้นด้วย Post-it จากการให้ลองวาง Flow เดิมที่ใช้ในแต่ละองค์กรในการพัฒนา Software ชิ้นนึงขึ้นมา จากนั้นเราจะมาตบๆ ปรับ Flow การทำงานให้กระชับ โดยจากการที่ผมได้คุยกับพี่ Staff (ลืมถามชื่อ T_T) ได้สรุปออกมาว่า

• Agile เอามาช่วยให้ทำงานได้ลื่นขึ้น ไม่ใช่เร็วขึ้น
• Agile เอาลูกค้าเข้ามาใน process ของการทำงานในทีมมากขึ้น เพื่อปรับจูนความเข้าใจ และความสามารถ
  ในเนื้องานให้ตรงกัน โดยจัดเป็น<< รอบ >>การทำงานลดความติดขัดในงานที่เราทำ
• Agile ขยุ้มทีม จูนทุกคนให้มี skill เท่ากัน

This slideshow requires JavaScript.

ช่วง 11.00-12.00 Session Agile CashFlow จริงมันไม่เกี่ยวกับตัว Agile เลย สาระของตอนนี้ คือ การสอนให้เรารู้จัก Money Management ครับ เพื่อให้เรามีกิน มีใช้ไปในอนาคต

ช่วงพักเที่ยง มีอาหารอร่อยๆจาก S&P ครับ หากสนใจเพจอาหาร ก็สามารถตามเพจ ครัวดีบุ๊กกลิ้ง ได้ครับ (แอบโฆษณา)

ช่วง 13.00-14.00 Session รวมมิตรครับ โดยแบ่งเป็น 2  ส่วน

• Introduction to Automate Testing
  • มองในมุมของ DEV แล้ว เราทำเพียง Unit Test ซึ่งก็มีหลายตัว ได้แก้ JUnit สำหรับ Java และ NUnit สำหรับ .Net
  • เห็นภาพรวมของ Continuous Integration(CI) โดยมองง่ายๆว่าเป็นการตั้ง Job งานให้ทำเมื่อเรา Check in Code เข้าไปใน Source Control อย่าง SVN, GIT แล้ว ให้ Deploy App และ Run Test เป็นต้น
  • การใช้ TestStack ในการทดสอบ UI ของ .Net ในส่วนของ WinApp
• Behavior Driven Development (BDD)
  • เป็นการมองภาพรวม ก่อนเจาะเข้าไปยังหน่วยที่ย่อยที่สุด
  • เราควรทำ Right Software และ Software Right (อยากรู้ว่าคิดอะไร ขอแตกไปเขียน Blog อีกตอนครับ)
  • ดึงคน 3 กลุ่มเข้ามาทำงานร่วมงาน ได้แก่ BA, DEV และ QA โดยเริ่มจากความต้องการขอ BA ในรูปแบบภาษาที่ใครก็สามารถอ่านและเข้าใจได้ หรือ Gherkin จากนั้นมี Tools ที่แปลงเป็น Code
    • ในส่วนของ .Net เป็น SpecFlow
    • ในส่วนของ Java เป็น JBehave
  • สุดท้ายเราทำออกมาดี เจ้า Gherkin เหล่านี้จะกลายเป็น Living document

ช่วง 14.30 - 15.30 Session Agile ทุนนิยม มองภายของ Agile ในมุมของนายทุน(ลดเวลา ลด Cost) กับ กรรมกรว่าห้องแอร์อย่างเราเนี่ย(ลดความเหลื่อมล้ำ ลดภาระ Dev เพิ่มคุณภาพ Code

ช่วง 15.45 - 16.30 Session Composite Refactoring  เป็นการใช้ความสามารถที่ IDE ทำไว้ให้เรา เพื่อช่วยให้ Refactor Code โดยที่ Test ไม่บึ้มมมมมม (ปกติของผม Comment ก่อน Refactor Code อย่างเดียว 555)

ช่วงสุดท้ายและเป็นช่วง Open Space ให้ Q&A สอบถามต่างๆครับ ^__^

This slideshow requires JavaScript.